Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., MEGA Tech Senior Editor

New digital technologies now make it possible to collect and leverage huge amounts of critical data at minimal costs – thus making a farm’s field operations more insight-driver, and potentially more productive and efficient. The agriculture ecosystems is already starting to invest in these digital technologies. The total market size for digital-based services is reach $4.55 billion. Greater use of digital agriculture services is vital not only to improve a farm’s financial performance, but also to meet the food needs of an expanding population.

World Population and Food Production

By the year 2100, the world’s population projects to reach 11.2 billion. That increase, up from today’s 7.6 billion, will require a lot more food that is currently generated. On a macro level, farming needs to be more productive. Additionally, by just 2050, two thirds of the world’s population is to live in cities, up from half now, meaning farms must be more efficient, produce more and do less environmental damage. AI, robotics, drones, and IoT are just some of the technologies revolutionizing agriculture, often in unexpected ways. It is clear that digital agricultures still has considerable untapped potential.

We humans have already occupied 71% of the world’s habitable land, and 50% of that is agriculture. Most of that in turn is taken up by livestock. While moving away from meat and dairy consumption would change this balance, and release 3.1 billion hectares of farmland, and such change in diet would take time. Lab-grown meat may help in this regard, if it proves palatable, but in the meantime, smarter farming of crops must provide a solution.

Precision Agriculture in Need

At the turn of the 21st century, smart farming or precise agriculture methods using digital data and sophisticated software and new tools such as drone-mounted cameras began to emerge. The IoT promises to turbocharge these efforts at computerization, enabling very precise information to be applied in agricultural decision systems in real time.

At the level of an individual farm, accurate wireless sensors can measure all the key factors that affect crop yields, from soil moisture, temperature, and composition to the land’s exposure to sunlight. Even livestock like cows or other animals can be monitored via a variety of vital sensors. Body temperature, activity, pulse, or exact location can help the farmer to detect at an early stage events such as reproduction or possible health disorders. 

These sensors then upload their data in real time to cloud servers via IoT systems and infrastructure. Nevertheless, remote locations, no nearby power sources or harsh weather conditions call for sensors that not only work reliably in the outdoor environment, but are also able to transmit their data over long distances while at the same time consuming very little energy so they can work with small battery or even solar power. Remote controlling your tractor via GPS is one thing, collection real-time data 24/7 from all possible places and situations is quite another.

The Future of The Digital Agriculture

A number of global trends are influencing food security, poverty, and the overall sustainability of food and agricultural systems. The four main developments placing pressure on agriculture to meeting the demands of the future: demographics, scarcity of natural resources, climate change, and food waste. The future of farming is very bright. There are more and more precision agriculture technologies coming out every month. All of these solutions offer substantial value for farmers in their effort to optimize production, better manage their operations, and both save money and make money off bigger yields

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., MEGA Tech Senior Editor

 เทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุดทำให้การจัดเก็บและจัดการข้อมูลสำคัญจำนวนมหาศาลเป็นไปได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้ประกอบการไร่สวนดำเนินกิจการได้อย่างมีทิศทางมากขึ้น อีกทั้ง ก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงขึ้นตาม ระบบนิเวศน์ของการเกษตรกรรมเองกำลังเริ่มลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล ตลาดภาคการบริการนี้มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.55 พันล้านดอลลาร์ การประยุกต์ใช้บริการด้านเกษตรกรรมดิจิทัลมิเพียงส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของผู้ประกอบการทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อโจทย์ด้านอาหารการกินของประชากรโลกที่กำลังขยายตัวอีกด้วย

World Population and Food Production

            คาดการณ์ว่าประชากรจะมีจำนวนถึง 11.2 พันล้านคนภายในปี 2100 นับว่าเพิ่มขึ้นจากจำนวน ณ เวลาปัจจุบัน 7.6 ล้านคน จึงจำเป็นต้องการกำลังการผลิตอาหารสูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในระดับมหภาคแล้วหมายถึง เราต้องการระบบการทำไร่สวนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นประชาชากรกว่า 2 ใน 3 ของโลกจะพักอาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ยิ่งต้องทำให้ระบบการทำไร่สวนต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ผลผลิตมากขึ้น ในขณะที่ต้องคงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ดี ปัญญาประดิษฐ์ จักรกลหุ่นยนต์ โดรน และ ไอโอที เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมการเกษตรและมักถูกนำมาใช้ด้วยวิธีการที่คาดไม่ถึง จึงประจักษ์ว่าศักยภาพของเกษตรกรรมดิจิทัลยังรอการค้นพบอยู่

มนุษย์ได้ครอบครองผิวโลกที่สามารถอยู่อาศัยได้ถึง 71% ซึ่ง 50% ในจำนวนนั้นเป็นพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่หมดไปกับการปศุสัตว์ รูปแบบการบริโภคเนื้อและผลิตภัณฑ์จากนมจะเปลี่ยนสมดุลทันทีและทำให้พื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์เพิ่มขึ้นถึง 3.1 พันล้านเฮ็กเตอร์ การเปลี่ยนแปลงในลักษณะกินระยะเวลายาวนาน ด้วยเหตุนี้ การเพาะเนื้อในห้องปฏิบัติการจึงเป็นทางเลือกการบริโภคที่เป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปถึงนั้นการเกษตรอัจฉริยะจะเป็นหนทางแก้ปัญหาในระยะปัจจุบัน

Precision Agriculture in Need

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 เราเริ่มที่เห็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อน และเครื่องมือ เช่น โดรนติดกล้องเข้ามาใช้ในการเกษตรแบบแม่นยำหรือเกษตรกรรมอัจฉริยะ ตัวเทคโนโลยีไอโอทีเป็นจักรกลหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในงานเกษตร ด้วยข้อมูลที่แม่นยำส่งผลต่อระบบการตัดสินที่ทรงประสิทธิภาพแบบเวลาจริง

ในระดับของการทำไรสวนส่วนบุคคลนั้น ระบบเซ็นเซอร์ไร้สายที่เที่ยงตรงเป็นปัจจัยประเมินผลที่สำคัญซึ่งมีผลต่อผลผลิตของพืช นับตั้งแต่ความความชื้น อุณหภูมิ หรือการตกกระทบของแสงแดด ถึงแม้การปศุสัตว์ก็ยังนำเซ็นเซอร์มาใช้ในการเฝ้าระวังตรวจจับสัญญาณชีพ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิร่างกาย กิจกรรม ชีพจร และตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน ของสัตว์เลี้ยง นำมาใช้เพื่อตรวจหาการตั้งท้องหรือความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรกได้

ตัวเซ็นเซอร์จะอัพโหลดข้อมูลที่มีอยู่ขึ้นอยู่เครื่องแม่ข่ายผ่านระบบโครงข่ายไอโอที แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะทางการติดตั้ง แหล่งพลังงาน หรือสภาพแวดล้อมที่ทรหด ตัวเซ็นเซอร์นอกจากต้องมีเสถียรภาพไว้วางใจว่าทำงานได้แล้ว ยังต้องสามารถส่งข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องเป็นะระยะทางไกลโดยใช้พลังงานน้อยที่สุดจากแบตเตอร์รี่จิ๋วเล็กหรือแผงสุริยะขนาดเล็กได้ ทั้งการควบคุมยานพาหนะทางการเกษตรผ่าน GPS หรือการรวบรวมข้อมูลแบบเวลาจริงได้ตลอดเวลาจากทุกแหล่ง ต่างก็มีความท้าทายที่แตกต่างกันไปตามบริษทและภูมิสภาพแวดล้อม

The Future of The Digital Agriculture

แนวโน้มความเป็นไปของโลกจำนวนไม่น้อยที่มีอิทธิพลต่อความมั่นคงทางอาหาร ความยากจนแร้นแค้น และความยั่งยื่นของอาหารและระบบเกษตรกรรม มีจำนวน 4 ปัจจัยด้วยกันที่สร้างแรงกดดันให้การเกษตรจำต้องตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต ได้แก่ จำนวนประชากร การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ ภาวะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโลก และขยะของเสียที่เป็นอาหาร อย่างไรก็ตาม อนาคตสำหรับเกษตรกรรมดิจิทัลสดใสมาก เทคโนโลยีเกษตรกรรมแบบแม่นยำออกมาสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกเดือน เกิดเป็นโซลูชั่นที่สามารถสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลให้แก่เกษตรกรชาวไร่เพื่อผลผลิตมากขึ้น เพื่อให้การจัดการเกษตรกรรมดีขึ้น ประหยัดรายจ่ายและในขณะเดียวกันเกิดดอกผลต่อการลงทุนที่สูงขึ้น