MEGA Tech ได้มีโอกาสอันดีสัมภาษณ์คุณ Atsushi Okamoto หลังจากได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซัค (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับบทบาทใหม่ในการบริหารมาซัคในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “เครื่องจักรทำกำไร” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ไม่เพียงแต่จำหน่ายเครื่องจักร แต่ยังมีซอฟท์แวร์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต เรียกได้ว่ามอบทั้งโซลูชันให้กับลูกค้าอย่างครบวงจรมากที่สุด
คุณ Atsushi Okamoto ได้กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ “หน้าที่ของเราคือ การสนับสนุนการผลิตของลูกค้าผ่านทางบริการขาย ซ่อม และบำรุงรักษาเครื่องจักร Mazak ในประเทศไทย เรารับฟังความต้องการของลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับรายละเอียดความต้องการของลูกค้าและหาตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา เรามีบริการหลังการขาย โดยเป็นการระดมความคิดร่วมกับลูกค้า เพื่อหาคำตอบที่จะช่วยให้ลูกค้าได้รับผลกำไรสูงสุด มีการคาดการณ์ว่าในปี 2022 เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มซาลง ดังนั้น เราจึงเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากคลื่นลูกใหม่ทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ”

พร้อมพัฒนาก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง รองรับการเติบโต Industry 4.0

คุณ Atsushi Okamoto กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการเติบโตในอนาคต “ปัจจุบัน อัตราการเกิดในประเทศไทยกำลังถดถอยลง และเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้น การลดจำนวนงานและการเปลี่ยนมาใช้ระบบออโตเมชั่นจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากสถานการณ์ในปัจจุบัน Mazak จึงได้เน้นไปที่การพัฒนาระบบออโตเมชั่นที่สามารถตั้งค่าได้ง่าย ไม่ว่าผู้ใช้จะเป็นใครก็ตาม เช่น โปรแกรมสำหรับหุ่นยนต์และซอฟต์แวร์สำหรับตรวจสอบสถานการณ์ทำงานของเครื่องจักรจากระยะไกล ความต้องการดังกล่าวคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้น แทนที่จะขายเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว เราจึงอยากจะมอบคำตอบแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าของเรา โดยการเพิ่มออปชั่นในส่วนของซอฟต์แวร์ระบบให้แก่ลูกค้าเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา”

INTEGREX สร้างกำไร ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า

“หนึ่งในผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงของ Mazak ได้แก่ INTEGREX ซึ่งเป็นเครื่องจักรระบบ ATC แบบการทำงานผสม โดยเป็นการรวมเอาเครื่องกลึงและเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเดียว เพื่อให้ทำงานได้อเนกประสงค์ ทั้งการกลึงและการกัด รวมทั้งสามารถทำการตัดเฉือนได้ 5 แกนพร้อมกัน เราเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมในด้านการพัฒนาและจำหน่ายระบบ INTEGREX นี้มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นตลอดเวลาจนมาถึงรุ่นปัจจุบัน ซึ่งมีออปชั่นที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นมีสปินเดิลที่สองหรือรุ่นที่มีแท่นรองรับงานเตี้ยกว่าปกติ รวมทั้งมีระบบออโตเมชั่นและแม็กกาซีนเครื่องมือมากกว่า 100 รูปแบบ” คุณ Atsushi Okamoto กล่าวด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
“เรามีตัวอย่างการทำงานจากลูกค้ารายหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งใช้เครื่อง INTEGREX ประมาณ 10 เครื่องในการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานที่มีรูปทรงซับซ้อน ในอดีต ลูกค้ารายนี้ต้องแบ่งการทำงานออกเป็นสองขั้นตอน คือการตัดเฉือนด้วยเครื่องกลึงและการตัดเฉือนด้วยเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ ตัวชิ้นงานเองมีรูปทรงที่ซับซ้อน ทำให้จำเป็นต้องตั้งค่าเครื่องมือหลายรอบ ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าสามารถตัดเฉือนชิ้นงานได้เพียงหนึ่งชิ้นต่อวัน จนกระทั่งเมื่อปี 2016 ลูกค้าได้ติดต่อเข้ามาปรึกษากับบริษัทว่า เราพอจะมีวิธีที่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้หรือไม่ เพราะลูกค้าคาดว่าปริมาณงานน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่ง ณ เวลานั้น เราได้เสนอเครื่อง INTEGREX i-200 ให้แก่ลูกค้า และเนื่องจากลูกค้าเพิ่งเคยลองใช้งานเครื่องกลึงกัดหลายแกนเป็นครั้งแรก ลูกค้าจึงค่อนข้างกังวลในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็พบว่ากำลังการผลิตของตนนั้นเพิ่มขึ้นถึงสองเท่านับตั้งแต่นำเครื่องมาใช้
จากนั้น ลูกค้าได้สั่งซื้อเครื่อง INTEGREX เพิ่มอีกปีละสองเครื่องตลอดระยะเวลาห้าปีต่อมา ทำให้เรามั่นใจว่า ลูกค้าเข้าใจถึงความสำคัญของการที่สามารถกลึงและกัดชิ้นส่วนอากาศยานที่มีรูปทรงซับซ้อนและมีมูลค่าสูงออกมาจนเสร็จสมบูรณ์ได้ โดยใช้การปรับตั้งเพียงครั้งเดียวและเครื่องจักรเพียงเครื่องเดียว
ถึงแม้ว่าเม็ดเงินลงทุนครั้งแรกอาจจะค่อนข้างสูง แต่หลังจากที่ได้ลองสัมผัสกับประสิทธิภาพแล้ว คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่า นี่คือ “เครื่องจักรสำหรับสร้างผลกำไร” และทำไมเราถึงมั่นใจในผลิตภัณฑ์นี้ของเรา นอกจากนี้ นี่ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ดังนั้น เราจึงต้องการที่จะโปรโมทผลิตภัณฑ์นี้ต่อในประเทศไทย” คุณ Atsushi Okamoto กล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม

Article by: MEGA Tech

Reference : https://www.mazak.com/

MEGA Tech has received a good opportunity to interview Mr. Atsushi Okamoto after gaining the position of Managing Director of Mazak (Thailand) Co., Ltd. regarding the new role in managing MAZAK’s operations in THAILAND under the concept “profit-making machines” to boost the customers’ confidence. In addition to selling the machines, we also have continuously developed the software in response to the growing demands in the future. Hence, we offer the most comprehensive solutions to the customers.

Our job is to support our customers’ production activities through the sale, repair and maintenance of Mazak machine tools in Thailand.
We listen closely to our customers, to try and understand in detail what they need and what is the most suitable option for them. We provide after-sales support, brainstorming together with our customers to find profitable solutions.
In 2022, it is expected that the economy will recover with the convergence of the COVID-19 pandemic. We will focus on potential industries in order to ride the wave of new economic opportunities.

Continuously developing to support the growth of industry 4.0

In Thailand, where the birth rate is declining and the population is aging, man-power saving and automation are expected to be inevitable.
In view of such times Mazak has focused on developing automated systems that anyone can easily set up, such as programming for robots, and software that monitors the operating status of machines remotely.
These demands are expected to increase rapidly in the next few years. Therefore instead of only selling machines, we would like to provide our customers with a total solution by also offering the option of system software with their purchase.

Intergrex generates profit by increasing two times the manufacturing capacity

One of Mazak’s representative models is INTEGREX, which is an ATC-type metal processing machine that combines a lathe and a machining center into a single unit. This is a multitasking machine capable of turning and milling and simultaneous 5-axis machining. We were the forerunner in the industry to develop and sell this INTEGREX in the 1980s. With the improvements we have made over time, this model can now offer the most suitable option for each customer from a wide range of features and specifications, including specifications with a sub-spindle or a lower turret, as well as over a hundred tool magazine and automation systems.
There is a customer here in Thailand who uses about 10 of these INTEGREX to process aircraft parts with complex shapes. The customer used to divide the process into lathe processes and machining center processes. The complex shape of the parts required many setup changes and it was therefore considered best to cut one piece a day. It was 2016 when a customer consulted us, asking if we could somehow increase productivity since the amount of work was likely to increase rapidly. At that time, we proposed the INTEGREX i-200. Since it was the customer’s first multitasking machine, they were very worried at first, but productivity has more than doubled since the introduction of the first machine.
For the past five years, customers have been purchasing approximately two new additional units a year of the INTEGREX model. We are convinced that the customer valued the fact that in one setup and one unit processing you can complete the processing of high-value-added aircraft parts with complex shapes which require both turning and milling.
Although the initial investment is not small, once you use it, you will surely understand that it is a “profitable machine”, we have confidence in our product. It can also help to solve labor shortage, and so we would like to continue promoting sales here in Thailand.

Article by: MEGA Tech

Reference : https://www.mazak.com/

MEGA Techは、タイにおけるマザック経営運営に「高利益を生む機械」というコンセプトのもと、その役割を果たしたマザック（タイランド）株式会社の常務取締役に就任した、岡本 惇（おかもと　あつし）氏にインタビューする機会をいただきました。当社はお客様に機械を販売するだけでなく、将来の高まる需要を支援するために生産改善を実現するソフトウェアを開発し、お客様に最も最適なソリューションを提案させていただきます。
我々の仕事はタイ国内に於けるマザック製工作機械の販売・修理・メンテナンスを通じてお客様の生産活動をサポートする事です。
お客様が何を必要としているか、親身になってヒアリングをして最適な機械をご提案し、購入後はその機械を使って如何に利益を生み出すか、までを一緒になって考えます。
　2022年はコロナ禍の収束と共に経済がこれまで以上に動き始めると予想していますので、その波に乗り遅れないようアンテナを高く張って動きのある産業に注力していきたいと思います。

Continuously developing to support the growth of industry 4.0

今後、少子高齢化社会へ入っていくであろうここタイに於いて、省人化・自動化は避けては通れない課題になるだろうと予想しています。
　 マザックはそのような時代を鑑み、ロボットのティーチング等セットアップが誰でも簡単に出来る自動化システムや、機械の稼働状況を遠隔で監視できるソフトウェアの開発に注力してきました。
　 この先数年間でこれらの需要は一気に高まっていくものと思いわれますので、機械のみならず、このようなシステム・ソフトウェアをセットにし、トータルソリューションという形でお客様に提案していきたいです。
マザックの代名詞とも言える機種の一つに INTEGREX があります。旋盤とマシニングセンターを1台に融合したようなATCタイプの複合加工機で、旋削からミーリング、同時5軸加工まで可能なマルチタスキングマシンです。弊社は業界に先駆け、1980年台にこの INTEGREX を開発、販売を開始しました。時代と共に改良を重ね、今ではサブスピンドル付き仕様や下刃物台付き仕様、100本以上のツールマガジンや自動化システムなど、幅広い仕様・オプション選択肢の中から、個々のお客様に対して最適なものをご提案することができる機種です。

Intergrex generates profit by increasing two times the manufacturing capacity

この INTEGREX を10台ほど使って複雑な形状をした航空機部品の加工を行っているお客様がここタイにいます。そのお客様は、これまでは旋盤、マシニングセンターに工程を分けて加工をしており、複雑形状故に段取り替えを何回も行う必要があったため、1日1個削るのが精いっぱいだったそうです。仕事量が急激に増えそうだったので何とかして生産性を上げられないか？と相談を受けたのが2016年で、そのタイミングで提案したのが INTEGREX i-200 でした。初めて購入するマルチタスキングマシンだったので当初は非常に心配されておりましたが、1台目の導入以降で生産性が2倍以上に跳ね上がり、この5年間は年2台ほどのペースでINTEGREX を追加購入いただいてきております。複雑形状で旋削・ミーリングの両方を必要とする付加価値の高い航空機部品を、1回の段取り且つ1台で完結できるところに大きな魅力を感じていただけたのだと思います。 初期投資額は決して少なくないですが、一度使っていただくと”儲かる機械”という事を必ず分かっていただける、弊社が自信を持ってご提案できる機種です。労働力不足解消の一助にもなり得ますので、今後もここタイで販売促進していきたいと考えています。

Article by: MEGA Tech

Reference : https://www.mazak.com/