Article by: MEGA Tech Magazine

จากการที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดตั้งสถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น (Thai-Japanese Industrial Cooperation Institute: TJIC) เพื่อเน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน เทคโนโลยี นวัตกรรม การพัฒนาบุคลากร โดยได้แถลงข่าวเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี มีการลงทุนจากบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความเจริญของอุตสาหกรรมและการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีอย่างสูง เป็นที่ยอมรับว่าประเทศญี่ปุ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ ส.อ.ท. จึงเห็นสมควรจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น” ขึ้น  โดยแต่งตั้งให้ คุณจิระพันธ์ อุลปาทร เป็นประธานคณะกรรมการ

นิตยสาร MEGA Tech ได้รับเกียรติครั้งสำคัญในการสัมภาษณ์คุณจิระพันธ์ถึงมุมมองของการนำประสบการณ์อันเปี่ยมล้นด้วยคุณค่าที่ได้สัมผัสและคลุกคลีอย่างใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับสูงและผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลานานกว่า 4 ทศวรรษ หนุนนำมาสู่การได้รับแต่งตั้งเพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมประสานภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างกัน นำไปสู่การยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยและเครือข่ายทางธุรกิจของทั้งสองประเทศ

สัมผัสกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นนานกว่า 40 ปี

ความเข้าใจชาวญี่ปุ่นรอบด้านอย่างถึงแก่นแท้ เริ่มต้นจากการที่คุณจิระพันธ์ได้ใช้ชีวิตไปศึกษาฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงวัยหนุ่ม หลอมรวมกับตลอดระยะเวลาการทำงานก็ได้ร่วมงานหน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ กับบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาดำเนินธุรกิจและลงทุนในประเทศไทย ในบทบาทประธานกรรมการ บริษัท เครือสุมิพล จำกัด ประธานกรรมการ สถาบันเทคโนโลยีการผลิตสุมิพล (SIMTec) การเป็นกรรมการสภาสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) ซึ่งคุณจิระพันธ์เป็นผู้ที่อยู่ในรุ่นก่อตั้ง และก็ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังจวบจนปัจจุบัน

ด้วยมูลเหตุดังกล่าว จึงนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งวิธีคิด วิถีชีวิต วัฒนธรรม ความต้องการ ระเบียบการทำงาน ธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นการเกื้อหนุนและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งให้การปฏิบัติภารกิจในฐานะประธานสถาบันความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นเกิดประโยชน์อย่างสมบูรณ์

แนวทางในการดำเนินภารกิจระดับประเทศ

สำหรับเป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินงาน ในฐานะที่คุณจิระพันธ์ได้รับเกียรติให้เป็นประธานสถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีบทบาทและหน้าที่สำคัญระดับประเทศ ในขณะเดียวกันก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการงานต่างประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยควบคู่กันไปด้วย คุณจิระพันธ์ กล่าวว่า ดังที่ทราบดีอยู่แล้วว่า นักลงทุนชาวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนั้นประเทศญี่ปุ่นยังครองตำแหน่งอันดับหนึ่งที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เข้ามาประเทศไทยมากที่สุดเกือบ 10 ปี ติดต่อกัน (พ.ศ. 2551 – 2560) ที่มีขนาดหลักแสนล้านบาทต่อปี

ปัจจุบันอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กระจายอยู่ในภาคการผลิตต่างๆ หลากหลายสาขา ดังนั้น บทบาทหน้าที่สำคัญของการดำรงตำแหน่งประธาน TJIC นี้ คือ ทำหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือในการติดต่อประสานงานส่งเสริมการค้าการลงทุน แลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจร่วมกันกับภาครัฐและหน่วยงานเอกชนของญี่ปุ่น รวมทั้ง ผลักดันประเด็นต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น 

พร้อมทั้งขับเคลื่อนการดำเนินงานของ TJIC เพื่อกำกับดูแลความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และเป็นการสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเป็นรูปธรรมกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เป็นช่องทางหารือระหว่างภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศ และเป็นหนึ่งในกลไกในการยกระดับสู่ไทยแลนด์ 4.0 พัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย

โดยที่ภารกิจหนึ่งของ TJIC คือ การเชิญชวนให้เกิดการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  คุณจิระพันธ์ มีมุมมองต่อประเด็นนี้ว่า  EEC นับเป็น Super Mega Project ที่รัฐบาลไทยได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรมใหม่ และได้มอบสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น EEC จึงเป็นข้อได้เปรียบและเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการดึงดูดความสนใจให้ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมลงทุนกับเรามากขึ้น

วางกลยุทธ์ประสานหลากมิติของแต่ละหน่วยงานให้เป็นหนึ่งเดียว

คุณจิระพันธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างสภาอุตสาหกรรมฯ กับประเทศญี่ปุ่นและนักลงทุนญี่ปุ่นได้พัฒนาในหลากหลายมิติ โดยในส่วนภาคเอกชนได้มีการหารือกับสถาบันธุรกิจชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นทั้ง Japan Business Federation (Keidanren) และ Kansai Economic Federation (Kankeiren) เพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ยังได้ร่วมมือกับ Japanese Chamber of Commerce (JCC) ในการนำเสนอข้อคิดเห็นและข้อกังวลต่างๆ ของนักธุรกิจให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องรับทราบ

TJIC มุ่งหวังที่จะประสานการทำงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างรอบด้านมากขึ้น ด้วยการชักนำผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้ามาเป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งมีสาขาที่ครอบคลุมมากถึง 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อช่วยกันขับเคลื่อน แลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นในมุมมองความต้องการต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ โดยที่ทางสภาอุตสาหกรรมฯ ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านนี้ด้วยการก่อตั้ง FTI Academy ขึ้น เพื่อการพัฒนาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นองค์ความรู้ใหม่ ๆ เช่น ระบบ IoT หรือ Smart Manufacturing เพื่อการพัฒนาที่สอดคล้องกับยุคอุตสาหกรรม 4.0 อีกด้วย

เช่นเดียวกับเรื่องของการพัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งทางประเทศญี่ปุ่นมีความชำนาญด้านเทคโนโลยีนี้เป็นพิเศษ สามารถเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรซึ่งเป็นฐานรากที่สำคัญของไทย ดังนั้น การที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นได้เข้ามาร่วมงานกับสภาฯนั้น จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเทคโนโลยี ถ่ายทอดแนวคิด การบริหารจัดการรูปแบบใหม่นำมาปรับใช้กับอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทยต่อไป

แหล่งข่าวและข้อมูลที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น

สำหรับประเด็นที่ว่า ปัจจุบันแหล่งข่าวและแหล่งที่ให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับประเทศญีปุ่นที่ชัดเจนและถูกต้องยังมีข้อจำกัด จึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ TJIC ให้ความสำคัญและพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่นี้ในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย

คุณจิระพันธ์ กล่าวว่า “การที่ผมได้ทำงานกับญี่ปุ่นมาอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผมมีโอกาสพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของญี่ปุ่นตลอดเวลา ซึ่งก็ได้รับทราบข้อเท็จจริงในแง่มุมต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวคิดและทัศนคติต่อการลงทุนในประเทศไทย ผมตั้งใจว่าจะนำข้อมูลและข้อเท็จจริงมานำเสนอให้กับสังคมอย่างถูกต้องมากขึ้น เพราะขณะนี้มีข้อมูลหลาย ๆ อย่างที่มักคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง บางอย่างก็เป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยตรงกับข้อเท็จจริงบ้าง ทำให้ไทยเสียโอกาสในการลงทุน จึงคิดว่าเป็นความจำเป็นในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย”ปัจจุบันคุณจิระพันธ์มีงานประจำที่บริษัท สุมิพล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ตนเองเป็นผู้ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปีแล้ว รวมถึงบริษัทในเครือและสถาบันเทคโนโลยีการผลิตสุมิพล พร้อมทั้งดำรงตำแหน่งกรรมการสภาสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งภารกิจต่าง ๆ ล้วนเป็นงานที่ต้องให้เวลาในการบริหารจัดการและดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ต่อเรื่องนี้ คุณจิระพันธ์ ทิ้งท้ายว่า “ในส่วนของธุรกิจที่ผมมีเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งขณะนี้ก็ได้เข้ามาสานต่อการทำงานอย่างเต็มตัวแล้ว เชื่อมั่นว่าจะสามารถรับภาระหน้าที่ต่อให้ไปสู่ทิศทางที่วางไว้ ผมพยายามที่จะลดงานประจำลงมาเรื่อยๆ และหันกลับมาให้ความสำคัญพร้อมทั้งมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสังคม ทั้งนี้ก็เพื่อตอบแทนสิ่งที่ผมได้รับและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตลอดมา รวมถึงการมีส่วนช่วยขับเคลื่อนทุกองคาพยพในการพัฒนาอุตสาหกรรมโดยภาพรวมของประเทศไทย”

Article by: MEGA Tech Magazine

The Federation of Thai Industries (FTI) established the Thai-Japanese Industrial Cooperation Institute, TJIC, to support the strategic partnership and reinforce collaboration in trade, investment, technology, innovation and personnel development. The establishment of the TJIC was announced in a recent press conference in mid-September. Japan’s significant investment in Thailand for over the past 50 years has contributed to Thailand’s industrial growth and advanced technology transfer, and in response to this the FTI recently founded the “Thai-Japanese Industrial Cooperation Institute” and appointed Chirapan Oulapathorn as the Inaugurate Chairman.

MEGA Tech Magazine is honored to interview Mr. Chirapan regarding his view on applying his invaluable experience from working closely with Japanese’s top management and entrepreneurs for over 4 decades.  It is through this deep understanding which has led him to being appointed as the collaborator to connect the industrial sectors and reinforce mutual economic development, to promote Thailand’s industrial sectors and also the business networks of both countries.

Over 40 years of experience with Japanese businesses

Real insights into Japanese people. These Mr. Chirapan has garnered from his internship in Japan when he was young and subsequently throughout his career he working with Japan’s leading companies through operating and investing in Thailand, as President of both Sumipol Group Limited and Sumipol Institute of Manufacturing Technology (SIMTec), as well as also being involved from the establishment of the Thai-Nichi Institute of Technology (TNI) from its creation until now as Board of Council.

Such experience has given him the insight into the Japanese mindset, lifestyle, culture, needs, working principle and practices, which is invaluable for accomplishing his mission as Chairman of the Thai-Japanese Industrial Cooperation Institute.

Direction for the national mission

Goals and strategies. As the first Chairman of the TJIC and Director, of Foreign Affairs Committee of the Federation of Thai Industries, Mr. Chirapan said that Japanese investors are well recognized as one of the largest investors in Thailand, and Japan is ranked number one for Foreign Direct Investment (FDI) for almost 10 years consecutively (2008-2017) worth a hundred thousand million baht per year. 

Japanese industries currently operate across a wide range of manufacturing sectors. As such, a key role of the TJIC Chairman will be to promote trade and investment collaboration, exchange economic data with Japan’s public sector and private companies, and address aspects to increase the economic development between the two countries.

In addition, the role includes driving TJIC operations to develop and strengthen close cooperation with Japanese organizations, building business networks for discussions between public and private sectors of both countries. This effort is one of the mechanisms to achieve Thailand 4.0 and developing the S-Curve and New S-Curve industries to increase the competitiveness of Thailand.

One of TJIC’s missions is to encourage investment from Japan, especially in the Eastern Economic Corridor (EEC). Mr. Chirapan’s opinion on this issue is that EEC is mega project of great importance, with a considerable investment by the government to develop infrastructure and promote investment for the new industrial area. As a result, EEC is a key part of the strategy to draw more investment from Japanese companies.

Organizational Integration Strategies

Mr. Chirapan continued that during the past several years, the relationship between the FTI, Japan, investors has developed in various ways. Regarding the private sector, there were discussions with Japan’s leading business institutes, including Japan Business Federation (Keidanren) and Kansai Economic Federation (Kankeiren), to seek cooperation between the private sectors of both countries. Moreover, FTI has cooperated with the Japanese Chamber of Commerce (JCC) to present opinions and concerns of businesspeople to organizations.

TJIC aims to coordinate and achieve more comprehensive development by inviting Japanese firms to join membership of FTI, which covers 45 industrial groups, to drive, exchange, and express opinions to reflect the needs of businesses. To achieve this development the FTI established the FTI Academy to train industry staff to work efficiently and focus on new technology, e.g. IoT systems and Smart Manufacturing, in accordance with the Industry 4.0 era.

As Japan as an expert of modern agricultural technology development, which contributes to adding value to agricultural products, key to the foundation of Thailand. Cooperation between the FTI and Japanese firms will support technological development and modern management approaches which can be applied to Thailand’s agricultural industry.

News and data sources about Japan

The limitation of clear and correct news and data sources about Japan is one of the issues that TJIC will focus on for the benefit of Thailand. 

Mr. Chirapan said “In working closely with Japan for a long time I meet with Japanese top executives regularly and learn their thoughts and attitudes towards investment in Thailand. I intend to present such data and facts to rectify some information which is not accurate, that might lead to lost investment opportunities. It is essential to present more accurate information to build confidence in Thailand.”

Currently, Mr. Chirapan is working full-time for Sumipol Group Limited, which he established over 30 years ago, as well as its subsidiaries and Sumipol Institute of Manufacturing Technology. He is also a Board Member of the Thai-Nichi Institute of Technology. Such roles require significant time to achieve their goals. Mr. Chirapan concluded “I have handed over main parts of business to the second generation, and I believe they can successfully continue to work towards the planned direction. I have tried to spend less time on my full-time commercial roles and focus more on social work to contribute to society and help drive the industrial development of Thailand.”

Article by: MEGA Tech Magazine

タイ工業連盟（FTI）は戦略的パートナーシップを強化するために、日本とタイ両国の貿易・投資・技術・革新・人材育成における協力強化を図ることを目的に、今年の９月中旬に、タイ・日本産業協力機構の設立（Thai-Japanese Industrial Cooperation Institute: TJIC）を公表しました。５０年以上にわたって、タイが日本企業から多くの投資を得た結果、タイの経済・産業発展は繁栄し、各種最新技術移転が活発化し多大な貢献をしてきました。これらの理由からFTIは「TJIC」を設立することが望ましいとし、チラパン　ウンラパトーン氏を会長として任命されました。    

MEGA Tech Magazineは、今回で４０年以上にわたって日本人の上級経営者や日本の企業家と接触し、密接に関係する価値観を備えた豊かな経験を持つチラパン会長の視点にインタビューする機会を与えられました。同氏はタイ国の経済・産業発展を促進する両国のビジネスネットワークの向上につながる産業統合の媒体として機能するように任命されました。

４０年以上日経企業家と触れ合ってきた

日本人の本質を完全に理解しています、その背景に在るチラパン氏は若い頃に日本で、インターンシップで勉強していた頃から始まりました。タイでの職務の期間を通しても、タイに進出した一流日経企業と各種の職務と責任を果たしてきました。特にSumipol Group Company Limitedの社長、Sumipol Institute of Manufacturing Technology（SIMTec）の会長を務め、更に、チラパン氏は「泰日エ業大学」(TNI)の創設世代の理事であり、現在でも全力で仕事を続けています。

その理由から、日本の企業家の伝統的な考え方、生き方、日本文化、企業のしきたり、就業規則等に深い理解を持っています。これらの強みは、タイ・日本産業協力機構の会長としての使命に対する大きな柱として有利に機能しスムーズな取組を進めて行けます。

タイ国家レベル今後の行動指針

当機構の運用上の目標と戦略について、チラパン氏が晴れてタイで初めて設立された組織であるタイ・日本産業協力機構の会長に就任し、タイ国家レベルで重要な役割と義務において、一翼を担う存在に位置付けられました。それと同時に、彼はタイ工業連盟（FTI）の外国事業の委員を兼務しています。チラパン氏によると「よく知られているように、タイにとって日本の投資家は最大の投資家国の一つです。さらに、日本はタイの外国直接投資（FDI）にとって１０年連続（2008年から2017年）年間１千億バーツ単位でナンバーワンの投資国の地位を占めている」と述べました。

　　日本の産業は、現在タイ国にて様々な製造部門に広がっているため、当TJIC会長の重要な役割は、政府機関や日系の民間企業に取次ぎ、両国の貿易と投資の推進や経済情報を交換しながら、各種課題の推進を図り、両国の経済発展に貢献して行きます。

　　特に日本と協力するためにTJICの運営を推進するとともに、日本の各政府機関や民間等とも緊密で具体的に協力しながら様々な取組を行っていきます。日本のビジネスネットワークの構築に焦点を当て、両国の政府機関と民間企業との間の議論のための窓口です。このように、Sカーブ及び新Sカーブの対象産業を発展させ、「タイランド4.0」にレベルアップし、タイの総合的競争力と産業の底上げを可能にします。

TJICの使命の１つは、日本から特に東部特別開発地区（EEC）への投資を奨励することです。チラパン氏によると「これまでタイ政府が取り組んできた中でEECは新しい工業地域のインフラ整備および産業開発をするために巨額の資金を投資したスーパーメガプロジェクトと見なされ、投資家への優遇措置を提供するため、EECは重要な戦略として活用することにより多くの日本投資家のタイ進出が加速されるビジネス参入口に結びつけたい」と述べました。

各組織の戦略の諸相を１つに一体化

　　チラパン氏は「過去数年間にタイ工業連盟（FTI）は日本政府と日本投資家との関係はさまざまな場面で発展してきました。民間企業では、日本経済団体連合会（けいだんれん）や関西経済連合会（かんけいれん）等、日本の代表的な大手企業と議論を重ねながら、両国の民間企業同士の協力を仰ぎました。また、タイ工業連盟（FTI）はバンコク日本人商工会議所（JCC）と協力して、日本人投資家の意見や懸念を関連公的機関と民間企業との連携を密にし、情報収集とシェアに務めてまいります」と語りました。

　　TJICはお互いの活動をより円滑かつ包括的な開発を満たすために、日本の企業家を４５の事業種もあるタイ工業連盟の会員に誘導することによって、企業家の様々なニーズに関する見解についての意見交換を促進するのに役立ちます。これを実現するために人材育成も着実に取り組むようにと、タイ工業連盟として「FTIアカデミー」を設立しました。「インダストリー4.0」時代に沿ったIoTやスマートマニュファクチャリングなどの新しい知識を焦点に積極的に教育する体制を取り組んでいます。

　　現代の農業技術の開発と促進と同様に、近代技術に関し特別な専門知識を持っている日本からタイの重要な基盤である農産物にとって付加価値をつけることができます。このように、日本の企業家が参入することにより、新しい技術の考え方をタイ人に伝えてくれることが、今後のタイ農業産業界の発展にも大きな貢献となります。

日本におけるニュース・ソースと情報

現在の問題点は日本に関連する明確かつ正確な情報を得られるのがまだ限られていることで、TJICはこの問題点を一つの優先的対策として挙げており、タイにとって有益な方向でこの義務を果たしていきます。

　　チラパン氏は、「長い間、日本と緊密に働いてきました。、そのお陰で常に日本人の上層部の方々と面会する機会が多く、日本人の多角的な視点や特にタイへの投資に関する見通しや切り口などを聞かされて、タイ社会より正確な情報とその真相を公表していきたいと思います。現在では不正確な情報が多く、タイに投資するチャンスを見逃してしまいます。正しい情報を知らせる事によって、タイへの信頼を高めるのが大事だと思います。」と述べています。　　　現在、チラパン氏は、３０年以上にわたって自ら設立した Sumipol Group Company Limited 及びSumipol Institute of Manufacturing Technology（SIMTec）で、職務につき、更に、「泰日エ業大学」(TNI)の創設世代の理事を兼務しています。どの職務も定められた目標達成に向けて、業務のマネジメントおよび実行するのに時間がかかる仕事です。チラパン氏は　「今現在、第2世代へ今の事業の引継ぎが出来たため、設定された方向に進めると確信しています。自分としてはルーチンの作業を減らし、そして社会のために働くことに集中したいと思っています。自分のキャリアで成功したものに対する恩返しであり、全力を尽くしタイ製造業の発展に貢献したいと思います。」と結論付けました。