แทบไม่น่าเชื่อว่า IoT ที่รู้จักกันในปัจจุบัน ได้วิวัติขึ้นจากหัวข้อสนทนาเฉพาะกลุ่มเล็กที่กระจายอยู่ตามหน่วยงานต่าง มองไปรอบตัว นับตั้งแต่อุปกรณ์วัดสัญญาณชีพที่เราสวมใส่ เทอร์โมสแตทอัจฉริยะในครัวเรือน ระบบจัดการบริหารยานพาหนะที่แจ้งตำแหน่งพัสดุ ไปจนถึงระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศหายใจ กล่าวได้ว่า IoT ทำให้เรามีวิถีชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และคงไว้ซึ่งความร้อนแรงโดยตัวเทคโนโลยีของมันเอง อีกทั้งหลากหลายผลิตภัณฑ์ได้คิดค้นพัฒนาและทยอยพากันเปิดตัว โดยคาดว่าจำนวนอุปกรณ์ IoT จะมีจำนวนสูงถึง 14.5 พันล้านเครื่องทั่วโลกเมื่อสิ้นปี 2022

รายงานของจาก GlobalData บ่งชี้ว่าตลาด IoT l จะทำกำไรมหาศาลมูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2024 โดยที่อุปกรณ์สวมใส่จะเติบโตแรงที่สุด ส่วนตลาด IoT ทั่วทั้งโลกจะมีมูลค่า 622 พันล้านดอลลาร์เมื่อจบปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 586 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 และจะเติบโตไปถึง 1,077 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2024 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) 13% ในช่วงเวลาดังกล่าว ตามการคาดการณ์ของ GlobalData IoT ระดับองค์กรครองตลาด IoT โดยรวม โดยสร้างรายได้ 76% ในปี 2020 การครอบงำของ IoT ระดับองค์กรนี้จะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้

ส่วนตลาด IoT ระดับองค์กรเติบโต 22.4% นับเป็นมูลค่า 157.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 ตามผลการวิเคราะห์ของ IoT Enterprise Spending Dashboard แต่จากปัจจัยหลายประการ ส่งผลให้ตลาดจึงเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ 24% รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ภาวะขาดแคลนชิปเซ็ต และการชะงักงันในห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ดี อเมริกาเหนือเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2021 (+24.1%) โดยที่เติบโตเร็วที่สุดคือเซกเมนต์ทีเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางการผลิต (+25%)

รายงานจาก IoT Analytics ได้คาดการณ์ว่าตลาดไอทีจะเติบโตที่ CAGR 22.0% จาก 2022 ถึง 2027 เป็น 525 พันล้านดอลลาร์ หากแต่ว่าอุปสรรคต่อการเติบโตหลายครั้งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็คือการขาดแคลนแรงงาน ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานยังได้บ่งชี้อีกด้วยว่าเมกะเทรนด์ทางเศรษฐศาสตร์อันทรงอิทธิพล ที่ขวางวิถีการเติบโตของ IoT อย่างจัง คือ ปัจจัยทางการเมือง สิ่งแวดล้อม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

หนึ่งในตัวอย่างการนำเทคโนลีดิจิทัลและ IoT มาใช้งานจนเป็นผลสำเร็จคือ Moderna เป็นที่ประจักษ์ต่ออุตสาหกรรมยา ถึงความสำคัญของการมุ่งมั่นทางดิจิทัล โดยโรงงานอัจฉริยะของ Moderna ได้รับบทดสอบจาก COVID-19 ในเดือนกรกฎาคม 2020 และได้กลายเป็นบริษัทแรกๆ ในอเมริกาที่สามารถเข้าสู่การทดลองทางคลินิกสำหรับวัคซีนต้านไวรัสโคโรน่าระยะที่ 3 โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากข้อมูลพันธุกรรมของไวรัสดังกล่าวถูกถอดรหัส
ด้วยอัตราการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ที่สูงขึ้น ส่งผลให้เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดอุตสาหกรรมไอที่คึกคักมากที่สุด โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วยประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วหลายแห่ง เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ และคาดว่าตลาด IoT ในเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตถึงขีดสุด ภูมิภาคนี้ยังมีพลวัตของขยายตัวของเมืองมากสูงที่สุดในโลกอีกด้วย

แม้ว่า IoT จะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจอย่างมหาศาล แต่ก็นำมาซึ่งผลพวงในแง่มุมของการพัฒนาที่ยั่งยืน ตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศความสำเร็จของ “โครงการเมืองอัจฉริยะ” แล้วก็ตามแต่ประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกันยังเพิ่งจะเริ่มต้น สำหรับประเทศจีนนั้นถือว่าเป็นตลาด IoT เพื่องานเมืองอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุด ส่วนในประเทศอินเดียเองก็ผุดโปรเจคเมืองนวัตกรรมมากกว่า 5,000 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนแล้วกว่า 2 ล้านล้านรูเปียซึ่ง แต่ละโครงการมีอัตราความก้าวหน้าแตกต่างกันไป จะเห็นได้ว่าประเทศมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีไปถึงขั้นสุด ในขณะที่บางประเทศยังลังเลที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ ทั้งนี้คาดว่าการขาดความรู้ความเชี่ยวชาญในหมู่ผู้ใช้ปลายน้ำและทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา จะเป็นปัจจัยจำกัดการเติบโตของตลาด IoT ในเอเชียแปซิฟิก

• 

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech

The IoT has evolved from a concept discussed primarily in laboratories, think tanks, and technology companies to reality. From the fitness trackers we wear to the smart thermostats we use in our homes, to the fleet-management solutions that tell us when our packages will arrive, to systems that monitor the air quality we breathe—the IoT has become embedded in our lives and the operations. IoT remains a hot technology topic, with many projects moving into the rollout phase. The number of connected IoT devices is expected to reach 14.5 billion globally by 2022.

According to GlobalData’s latest report, the global Internet of Things market by revenue will be worth $ 1.1 trillion by 2024, with much of the growth from wearables. The global IoT market was worth 622 billion in 2022, up from 586 billion in 2019. It will grow to reach 1,077 billion by 2024, with a compound annual growth rate (CAGR) of 13% over the period, according to GlobalData forecasts. The enterprise IoT dominates the overall IoT market, generating 76% of the total revenue in 2020. This dominance of the enterprise IoT will continue for the foreseeable future.

The enterprise IoT market grew 22.4% to 157.9 billion in 2021, according to the March 2022 update of IoT Analytics’ global IoT Enterprise Spending Dashboard. Due to several factors, the market grew slightly slower than the 24%, including a slower-than-anticipated overall economic recovery, a lack of chipsets, and disrupted supply chains. Nevertheless, North America was the fastest-growing region in 2021 (+24.1%), and process manufacturing was the fastest-growing segment (+25%).

At this point, IoT Analytics forecasts the IT market size to grow at a CAGR of 22.0% to 525 billion from 2022 until 2027. Several growth headwinds have had a much more profound impact than anticipated, the labor shortages. In addition, IoT Analytics provides insight into how major macro trends influence the IoT growth trajectory in economics, political development, environmental factors, and technological advances.

In addition, one of the success stories of adopting IoT and digital technologies was Moderna. Moderna has shown the pharma industry what it means to put digital first. In 2020, Moderna’s smart factory was tested by the COVID-19 pandemic. In July 2020, the company became one of the first US companies to enter phase III of a clinical trial for a potential coronavirus vaccine, just months after the virus’s genetic code was released.

The increased adoption rate of new technologies has made Asia Pacific a lucrative market for the IT industry. The Asia Pacific consists of several emerging and developed economies, such as Australia, India, China, Japan, and Singapore. Due to this reason, the IoT market in the Asia Pacific is expected to grow at the highest rate as the world’s most dynamic region for urbanization.

While creating enormous business opportunities, this trend also presents grave challenges for sustainable development. To illustrate, Japan has already declared completion of most of its “smart city project,” while other countries in the region are still in the initial development phase. China is the biggest marketplace in developing IoT in smart cities. In India, more than 5,000 innovative city projects with investments valued at over INR 2 trillion were in various stages of implementation. Some countries are more technologically developed, while some are still reluctant to adopt the latest technologies. The lack of knowledge and expertise among end-users and the lack of resources and infrastructures in the developing economies are expected to restrict the growth of the IoT market in the Asia Pacific.

• 

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech

IoTは主に研究所、シンクタンク、テクノロジー企業で議論されている概念から現実へと進化した。我々が身に付けるフィットネストラッカーから家で使用するスマートサーモスタットや荷物がいつ到着するかを知らせるフリート管理ソリューション、そして呼吸する空気の質を監視するシステムまで、IoTは私たちの生活や仕事に入り込んで来ている。IoTは依然としてホットなテクノロジートピックであり多くのプロジェクトが展開フェーズに移行している。接続されるIoTデバイスの数は2022年までに世界で145億に達すると予想されている。

GlobalDataの最新のレポートによれば収益別の世界のモノのインターネット市場は2024年までにその時価総額は1.1兆ドルとなりその成長の多くはウェアラブルからとの事である。 GlobalDataの予測によれば世界のIoT市場は2022年には6,220億ドルとなり2019年の5,860億ドルから増加した。そして2024年までには10億7,700万ドルに達し、年平均成長率（CAGR）は13％になると同社は予測している。エンタープライズIoTはIoT市場全体を支配し2020年の総収益の76％を生み出す。このエンタープライズIoTの支配は当面の間継続すると思われる。

IoT AnalyticsのグローバルIoT Enterprise Spending Dashboardの2022年3月時点におけるアップデートデータによるとエンタープライズIoT市場は2021年に22.4％の成長をして1,579億になったとの事である。幾つかの要因により市場は24％よりもわずかに低い成長をしたが、これには予想よりも成長の鈍かった全体的な景気回復、チップセット不足、サプライチェーンの混乱などが含まれる。それにもかかわらず北米は2021年に最も急成長した地域（+ 24.1％）でありプロセス製造は最も急成長したセグメント（+ 25％）であった。

この時点で、IoT AnalyticsはIT市場規模が2022年から2027年まで22.0％のCAGRで5,250億に成長すると予測している。いくつかの成長への向い風は予想よりもはるかに深刻な影響を及ぼした。そしてIoT Analyticsは主要なマクロトレンドが、経済、政治的発展、環境要因、およびに技術の進歩におけるIoTの成長軌道にどのように影響するかについてその見識を述べている。

そして更にIoTとデジタルテクノロジーの採用のサクセスストーリーの1つは、Modernaである。Modernaはデジタルを最優先する事の意味を製薬業界に証明した。2020年にModernaのスマートファクトリーはCOVID-19パンデミックによってその対応力を試される容となった。2020年の7月、同社はウイルスの遺伝子暗号が発表されてから僅か数ヶ月で大きな可能性を秘めたコロナウイルスワクチンの臨床試験のフェーズIIIに入った最初の米国企業の一つとなった。

新技術の利用率の向上によりアジア太平洋地域はIT業界にとって利の有る市場となった。アジア太平洋地域はオーストラリア、インド、中国、日本、シンガポールなどの新興国と先進国で構成されている。このお陰でアジア太平洋地域のIoT市場は世界で最もダイナミックな都市化地域としてひ最高レートでの成長が見込まれている。

この傾向は巨大なビジネスチャンスを生み出す一方で持続可能な開発にとって重大な課題でもあるのだ。例えば日本は既にその「スマートシティプロジェクト」のほぼ完了を宣言しているがこの地域の他の国々はまだその初期開発段階に在る。中国はスマートシティでIoTを開発する最大の市場だ。インドでは、2兆ルピー以上の投資が行われた5,000以上の革新的な都市プロジェクトが様々な実現段階に在った。国によってはより技術的な開発が行われているが、その他方未だに最新の技術を採用する事に躊躇している国も在る。エンドユーザー間の知識と専門知識の欠如およびに発展途上経済における資源とインフラの欠如はアジア太平洋地域のIoT市場の成長を制限するものと予想される。

• 

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech