ระบบ Internet of Things (IoT) ประกอบด้วยเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ที่ “พูดคุย” และเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีคลาวด์ เมื่อข้อมูลเข้าถึงระบบคลาวด์แล้ว ซอฟต์แวร์ IoT ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมนับไม่ถ้วนเท่านั้น ตั้งแต่การเกษตรไปจนถึงการค้าปลีกและการแพทย์ แต่ยังรวมถึงต่อผู้บริโภคปลายทางอีกด้วย

               คาดว่าทั่วโลกจะมีจำนวนอุปกรณ์ IoT มากกว่า 75 พันล้านเครื่องภายในปี 2025 ซึ่งมากกว่าในปี 2015 ถึง 5 เท่า จากการศึกษาของ McKinsey พบว่าภาคธุรกิจที่ใช้ IoT เพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 25% ระหว่างปี 2014 ถึง 2019

               นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ทุ่มเทพยายามย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน IoT และโครงการ Thailand 4.0 ของภาครัฐหลายโครงการ (เช่น Smart City และ Industry 4,0) ได้มุ่งเน้นส่งเสริมการนำ IoT มาใช้

               ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้และให้บริการ 5G เดินหน้าสู่การเป็น “ศูนย์กลางดิจิทัล” ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่หลายรายของไทยได้ลงทุนรวมกันซึ่งเป็นจำนวนกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ในการประมูลคลื่นความถี่ 5G ของประเทศ อุบัติการของเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความจำเป็นและการ IoT มาปรับใช้

               รายงานจาก Gartner ระบุว่ามีอุปกรณ์เชื่อมต่อถึง 20.4 พันล้านเครื่องในโลกในปี 2020 จำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน แต่ว่าโครงสร้างพื้นฐานไร้สายในปัจจุบันไม่มีความสามารถในการรองรับอุปกรณ์จำนวนมาก จึงไม่สามารถรับประกันความเร็วในการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดย ซึ่ง IoT สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวนี้ได้ ประเทศไทยยังคงเดินหน้าสู่เทคโนโลยีไร้สาย 5G ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะมีระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อ IoT มากขึ้น

               ปัจจุบันพบว่าธุรกิจที่นำ IoT มาใช้ในประเทศไทยหลักๆ คือ ธุรกิจการผลิต โลจิสติกส์ และการขนส่ง อย่างไรก็ตามพบว่าเริ่มพบการใช้ IoT มากขึ้นในธุรกิจพลังงาน (บริษัทน้ำมันและก๊าซ ปตท. ใช้ IoT ในความงานปลอดภัยทางท่อ) และในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (งานอาคารอัจฉริยะ) เป็นต้น

               คาดการณ์ว่าตลาด IoT ในประเทศไทยจะเติบโดยได้รับแรงหนุนธุรกิจเครื่องใช้ผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับ IoT และจะเพิ่มขึ้นถึง 2.19 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทยตั้งใจที่จะพลักดันการปฏิวัติ IoT อย่างมาก จึงได้สร้างสิ่งจูงใจในการลงทุนเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และยกเว้นภาระทางภาษีให้กับธุรกิจที่พัฒนาหรือปรับใช้ IoT และเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ยังพบอุปสรรคในระบบราชการ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าระบบราชการนี้อาจขัดขวางความก้าวหน้าของประเทศไทย

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor

An internet of Things (IoT) system consists of sensors and devices which “talk” to and connect with cloud solutions. Once the data finds its way to the cloud, IoT software benefits not only to businesses and countless industries, from agriculture to retail and medicine, but also to end consumers.

               Globally, it’s estimated that there will be more than 75 billion IoT devices installed by 2025, five times as many as in 2015. A study by McKinsey notes that the percentage of business using IoT grew from 13% to 25% between 2014 and 2019.

               In addition, Thailand is putting a great onus on the development of its IoT infrastructure, and several of the government’s Thailand 4.0 initiatives, such as Smart City and Industry 4.0, are focused on boosting the adoption of IoT.

               Thailand will be the first Southeast Asian country to adopt 5G services, as it continues on its path to becoming a “digital hub.” Thailand’s major operators have invested a combined $3.2 billion in the country’s 5G spectrum auctions, and the arrival of such technology will further accelerate both the necessity and the adoption of IoT solutions.

               According to Gartner, there are 20.4 billion connected devices in the world as of 2020. This number will doubtlessly continue to rise. Current wireless infrastructure does not have the capacity to accommodate so many devices and ensure the exchange of information without minor lags. IoT does. Thailand persistent in their path towards 5G wireless technologies, with it comes to the promise of a more IoT friendly ecosystem.

               Currently, IoT adoption in Thailand is dominated by manufacturing, logistics, and transportation. However, there is an increasing number of use cases: in energy (oil and gas company PTT use IoT in their pipeline safety) and in real estate (smart buildings), among others.

               The IoT market in Thailand is forecast to grow, driven mostly by consumer-related IoT, rising to $2.19 billion by 2030. Thailand’s Board of Investment is so intent on an IoT revolution that it offers a range of investment incentives to support, promote and tax-exempt businesses that develop/adopt IoT and related digital technologies, including eligibility to receive up to eight years of corporate tax exemption and non-tax privileges. However, there are a number of bureaucratic obstacles that have been acknowledged as potentially stymying Thailand’s progress.

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor

モノのインターネット（IoT）システムはクラウドソリューションと「交信」して接続するセンサーとデバイスで構成されている。データがクラウドに到達するとIoTソフトウェアは農業、小売業、医療関係企業や業界の数々だけではなく最終消費者にもメリットをもたらす。

               世界的に見て2025年までに750億を超えるIoTデバイスがインストールされると推定されてる。これは2015年の5倍だ。マッキンゼーの調査によればIoTを使用するビジネスの割合は2014年から2019年にかけて13％から25％に増加したとの事だ。

更にタイはIoTのインフラ開発に大きな責任を担っておりスマートシティやインダストリー4.0などの政府のタイ4.0イニシアチブの幾つかはIoTの採用を促進することに重点を置いている。

タイは「デジタルハブ」への道を歩み続けるべく5Gサービスを採用する最初の東南アジアの国になる。タイの主要オペレーター事業者は国家の5Gスペクトルオークションに合計32億ドルを投資しており、それらテクノロジーの登場によりIoTソリューションの必要性と更なる採用の増加の両方がより加速される。

               Gartnerによれば2020年の時点で世界には204億の接続デバイスがあると。そしてこの数は間違いなく増加し続けるであろう、と。現在のワイヤレスインフラはそんなに多くのデバイスに対応してほんの僅かな遅延くらいで情報の交換を保証する能力は無い。これをIoTならやってのける。タイは5Gワイヤレス技術への道を歩み続けておりIoTに対してより優しいエコシステムが約束されている。

               現在、タイにおけるIoTの利用は製造業、ロジスティクス業、およびに輸送業によっての独占状態である。しかしここに来てエネルギー業（石油・ガス会社のPTTはパイプラインの安全性にIoTを使用）や不動産業（スマートビル）等での利用ケースも増加している。

               タイのIoT市場は主に消費者関連IoTに牽引されての成長が予想されており、2030年までには21.9億ドルに達すると見られている。タイ投資委員会はIoT革命に非常に熱心活動をしており、IoTおよびに関連するデジタルテクノロジーを開発/利用する事業に対してサポート、促進、課税免除等の様々な投資インセンティブを提供しておりこれには最大8年間の法人税免除およびに非税特権を受け取る資格が含まれている。しかしここにはこのエリアにおけるタイの進歩を妨げる可能性があると思われる官僚的な障害が幾つか存在するのも事実だ。

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor