Logistics & Supply Chain

​More Efficient & Productive Warehouse Operations

​More Efficient & Productive Warehouse Operations
Share with

การบริหารระบบการจัดการคลังสินค้าและระบบขนส่ง เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างผลกำไรที่ดีกว่าให้กับอุตสาหกรรมทั้งขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ

่ อุตสาหกรรมการผลิตโดยส่วนใหญ่มักต้องอาศัยพื้นที่มากกว่าครึ่งของโรงงานเพื่อเป็นคลังสินค้าในการเก็บและบรรจุสินค้าจัดเตรียมก่อนการส่ง คลังสินค้านอกจากมีหน้าที่เก็บวัตถุดิบ (Raw material) และสินค้าสำเร็จรูป (Finished goods) ก็ยังใช้เพื่อเก็บสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ชิ้นส่วน หรือแม้กระทั่งงานระหว่างการผลิต (Work In Process) ซึ่งหากมีการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าหรือวัตถุดิบที่เก็บอยู่ภายในคลังสินค้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะส่งผลต่อต้นทุน ที่ถูกสะท้อนไปที่กำไรของกิจการอย่างมากอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้เกิดการจัดการที่มีประสิทธิภาพและเกิดความยืดหยุ่นและได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) เราจึงจำเป็นต้องหาวิธีการในการจัดการสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และต้นทุนให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาระบบการจัดการคลังสินค้า และการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคลังสินค้าของเรา​

เทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อการบริการจัดการคลังสินค้าที่นิยมนำมาใช้อย่างมากในการเพิ่มประสิทธิภาพคงหนีไม่พ้นวิธีการใช้ GPS บาร์โค้ด (Global Positioning System Barcode) สแกนเนอร์ ระบบการควบคุมกระบวนการขนส่งทางรถยนต์ โดยใช้เทคโนโลยี Mobile 3G มาช่วยในการตรวจสอบ ค้นหา และจับตำแหน่งของรถบรรทุกที่ขนส่งสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง และลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระบบ RFID (Radio Frequency Identification)มาช่วยในการตรวจสอบการรับเข้าและจ่ายสินค้าจากโกดังสินค้า ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและความแม่นยำในการรับเข้าและจ่ายสินค้าออกจากโกดัง ระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) และระบบการจัดการการขนส่ง (Transportation Management System: TMS) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า การจัดการปริมาณการไหลเข้า-ออกสินค้า ที่ความถูกต้องแม่นยำได้เป็นอย่างดี ยิ่งผู้ผลิตสามารถจัดการคลังสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่นั่นแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในของบริษัทมากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังมีบริษัทต่างๆจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการคลังสินค้าได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมวิธีการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้าเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคลังสินค้าต่อไป​

การนำเทคโนโลยีมาใช้งานเพื่อการแสดงผลแบบเรียลไทม์

กุญแจสำคัญในการบริหารคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพคือการจัดสรรพื้นที่ให้เป็นระบบ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบันทึกสินค้าเข้าออกแบบเรียลไทม์ และแสดงผลทันทีผ่านโปรแกรมระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ร่วมกับระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) ซึ่งสามารถเช็คทันที วิธีนี้จะทำให้ฝ่ายขายและฝ่ายจัดส่งทราบทันทีว่ามีปริมาณสินค้าอยู่เท่าไหร่ และยังสามารถตรวจสอบได้ว่าได้มีการจัดส่งสินค้าตามใบสั่งซื้อแล้วหรือยัง ซึ่งทำให้เราสามารถกำหนดปริมาณงานในการผลิตสินค้าเพิ่มเติม และสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้การตรวจพิจารณาสินค้า Dead Stock อย่างสม่ำเสมอทำให้เราสามารถจัดการพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามความเร็วของการเข้าออกของสินค้าแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทเช่นกัน เพราะความต้องการของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจึงจำเป็นต้องกำหนดปริมาณสินค้าที่เหมาะสมซึ่งสามารถประมาณการได้จากระบบ ERP เช่นกัน​

​More Efficient & Productive Warehouse Operations

การใช้เทคโนโลยี Real-Timeให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

เมื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์ช่วยสร้างคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกระบบ WMS ที่ผสานรวมเข้ากับ ERP และระบบซัพพลายเชนในการทำงานร่วมกัน ระบบ WMS สามารถช่วยจัดการการจัดการวัสดุได้แบบเรียลไทม์ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและแสดงให้เห็นถึงจุดที่ควรปรับปรุงในระบบการบริหารคลังสินค้า อีกหนึ่งจุดที่มีความสำคัญนั่นคือการศึกษาประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานซึ่งระบบ WMS จะสามารถกำหนดรหัสพนักงาน และแสดงผลการทำงานของพนักงานเทียบกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ค่า KPI ได้แบบเรียลไทม์ การจัดสรรคลังสินค้าให้เป็นการจัดวางแบบแนวตั้ง จะช่วยในการเพิ่มพื้นที่ในการจัดเป็นได้อย่างเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ผู้ผลิตบางรายอาจออกแบบพื้นที่คลังสินค้าโดยการลดขนาดทางเดินลง และใช้เทคโนโลยีรถโฟล์คลิฟท์ที่สามารถทำงานในพื้นที่แคบ หรือการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ในการทำงานก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มพื้นที่ได้สูงขึ้นถึง 25-35%

​More Efficient & Productive Warehouse Operations