เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในครัวเรือนได้สร้างอุตสาหกรรมมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ ความก้าวหน้าและพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดรับกับวิถีชีวิตผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าการเติบโตในหลายภาคส่วนชะงักลงช่วงการแพร่ระบาด แต่มรายงานจาก Statista ได้แสดงให้เห็นว่าตลาดสินค้า CE ฟื้นตัวได้เร็วทั้งที่ธุรกิจค้าปลีกที่มีหน้าร้านต่างทยอยปิดตัวลงทุกมุมโลก ยังพบอีกว่าผู้คนใช้เวลาที่บ้านมากขึ้นและจึงได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการอยู่อาศัยและความปลอดภัยจากอุปกรณ์ที่สามารถประมวลผลขั้นสูงมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเป็นตัวขับเคลื่อนที่พลักดันการเติบโตสินค้าในกลุ่ม CE

เป็นที่รู้กันว่าอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Electronics: CE) เป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกบนแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์ แต่ความร้อนแรงไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้ เพราะส่วนแบ่งยอดขายของสินค้าทั้งประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคยังคงแผ่ขยายและเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป ทั้งนี้ข้อมูลของ Statista Consumer Market Outlook พบว่าทุก 1 ใน 5 ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนซื้อขายกันแบบออนไลน์ และยังคาดว่าสัดส่วนดังกล่าวนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 31% ภายในปี 2023

รายงานของ Statista แสดงให้เห็นว่ารายรับในตลาด CE จะมีมูลค่า 1,057 พันล้านดอลลาร์ในสิ้นปี 2022 โดยส่วนการตลาดที่ใหญ่ที่สุดคือโทรศัพท์มีด้วยปริมาณ 482.9 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าตลาดจะเติบโตปีละ 1.84% ที่ CAGR ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2026 เมื่อเทียบกันรายประเทศเมื่อสิ้นปี 2022 แล้วพบว่าตลาดที่ทำรายได้สูงสุดคือจีนอยู่ที่ 250.9 พันล้านดอลลาร์และเฉพาะยอดขายออนไลน์ของตลาด CE ทั่วโลกในปีเดียวกันนี้จะมีสัดส่วนถึง 43.8%

สำหรับตลาดผู้บริโภคนั้นคาดว่าจะมีปริมาณอุปกรณ์ CE ในตลาดถึง 8,950.7 ล้านชิ้นภายในปี 2026 และเติบโตของปริมาณที่ 1.6% ในปี 2023 และคาดว่าสัดส่วนโดยเฉลี่ยของผู้บริโภคต่ออุปกรณ์ CE จะอยู่ที่ 1 : 1.11 ชิ้น ภายในสิ้นปี 2022

คาดว่าการใช้จ่ายในกลุ่มอุปกรณ์ CE ทั้งที่เป็นเทคโนโลยีในปัจจุบันและที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่คาดว่า จะมีมูลค่า 505 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการจัดส่ง 2.1 พันล้านเครื่องภายในปี 2022 นับว่าเพิ่มขึ้น 2.8% เทียบกับปีก่อนหน้า สินค้าที่กำลังเติบโตได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคเติบโตได้แก่ ชุดหูฟัง AR/VR, โดรน, อุปกรณ์สื่อบันเทิงออนดีมานด์, หุ่นยนต์หลากหลายรูปแบบเป็นต้น สินค้า CE ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะส่งแรงกระเพื่อมให้เกิดการเติบโตไปยังตลาด CE ทั่วทั้งโลกในไม่ช้า ยิ่งไปกว่านั้น CE ถือว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผู้เล่นหน้าใหม่มากหน้าหลายตาหลั่งไหลเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นศูนย์การผลิตซื้อขายระดับ แต่สำหรับตลาดของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกันไป 5 ปีข้างหน้า

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ใหม่ในตลาด CE ประเภทอุปกรณ์สวมใส่ซึ่งรวมถึง เครื่องติดตามการออกกำลังกาย สมาร์ทวอทช์ และหูฟังอัจฉริยะ กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคอย่างมาก คาดว่าจำนวนที่ออกสู่ตลาดจะมีประมาณ 490 ล้านเครื่องภายในปี 2023 เพิ่มขึ้นประมาณ 80% เมื่อเทียบกับปี 2020 ส่วนยอดขายของอุปกรณ์อื่น เช่น คอนโซลเกมและชุดหูฟัง VR/AR กำลังเติบโตในช่วงขาขึ้นเพราะผู้บริโภคเองก็ต้องการและค้นหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นในตลาด

ผลการสำรวจ Connectivity and Mobile Trends ของ Deloitte พบว่าผู้บริโภค 39% เป็นเจ้าของสมาร์ทวอทช์ และมีจุดประสงค์การใช้งานคล้ายกัน เช่น เพื่อความฟิตของร่างกาย ลดน้ำหนัก และบรรลุเป้าหมายส่วนตัวทางสุขภาพ ผู้คนใช้สมาร์ทวอทช์มิใช่เพียงเพื่อนับจำนวนก้าวเท้าเท่านั้น แต่ใช้เพื่อตรวจรักษาสุขภาพของตนมากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และแอปใหม่ที่ออกสู่ตลาด ได้เปลี่ยนให้อุปกรณ์สวมใส่ให้เป็นคลินิกสุขภาพส่วนตัว ณ ปัจจุบัน ความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้คือมาตรฐานสำหรับสมาร์ทวอทช์ส่วนใหญ่ไปแล้ว บางรุ่นได้อนุมัติจากองค์การอาหารและยา ให้ใช้เพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติ เช่น ภาวะหัวใจห้องบนสั่นซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง การที่อุปกรณ์เหล่านี้มีความซับซ้อนก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้เกิดแนวโน้มที่ผู้บริโภคใช้ดังที่กล่าวมาเพื่อการรับมือกับโรงเรื้อรังและตรวจหาเพื่อป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ มากขึ้นไปด้วย

ในขณะที่ COVID-19 แพร่กระจาย พบว่าอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ที่ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) สามารถซื้อหาได้โดยง่าย อุปกรณ์นี้แจ้งเตือนผู้ที่มีค่า SpO2 ต่ำเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่มีเครื่องมือเพื่อใช้ตรวจ ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลจากอุปกรณ์สามารถนำไปวิเคราะห์ขั้นสูงได้ การใช้เทคโนโลยีที่สามารถประสานการทำงานจะทำให้แพทย์เข้าถึงข้อมูลสุขภาพผู้ป่วย มีความครอบคลุมมากขึ้นเพื่อวินิจฉัยและให้การดูแล จากที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่าอุปกรณ์สวมใส่กำลังเข้าบุกยึดตลาด CE แม้ว่าโลกจะอยู่ในวิกฤตก็ตาม

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech

Consumer electronics (CE) forms a multibillion-dollar industry, steadily progressing and developing with technology and adding new product lines toward changing lifestyles. According to Statista, despite disrupted growth in several sectors during the pandemic, the consumer electronics market was resilient even with the intermittent closure of physical stores worldwide. In addition, people spend a lot more time at home, so increased demand for greater comfort and security through intelligent devices and appliances drove growth in the sector.

Although traditionally associated with e-commerce are still among the fastest-growing segments in global online sales, online sales of consumer electronics and apparel were still a solid growing share of total sales. According to Statista Consumer Market Outlook, around every fifth household appliance is already bought online, which is expected to grow to 31% by 2023.

As reported by Statista, the revenue in the CE market amounts to USD 1,057 billion in 2022, and the largest segment is telephony, with a market volume of USD 482.9 billion. Moreover, the market is expected to grow annually by 1.84% at CAGR from 2022 to 2026. In global comparison, most revenue is generated in China at USD 250.9 billion in 2022. By the end of 2022, the online sales of the worldwide CE market will reach 43.8% of the total shares.

In the consumer market, volume is expected to amount to 8,950.7 million pieces by 2026, and the CE market is expected to show a volume growth of 1.6% in 2023. The average volume person in the CE market is expected to reach 1.11 pieces in 2022.

Consumer spending on traditional and emerging technologies is forecasted to amount to 505 billion US dollars, with 2.1 billion units shipped by 2022, marking a year-on-year growth of 2.8%. Emerging consumer technologies include AR/VR headsets, drones, on-demand devices, robotic systems, etc. The significantly growing popularity of modern consumer electronics in the Asia Pacific is expected to accelerate the growth of the global consumer electronics market shortly. Moreover, as an extremely highly competitive market, new players are constantly entering the market, particularly China, a global hub for manufacturing products. In contrast, Japan’s and South Korea’s markets are expected to grow at similar rates over the next five years.

Wearable devices, including fitness trackers, smartwatches, and hearables, are the relative newcomer to the CE market and have embraced great consumer enthusiasm over the last years. The overall wearable market will ship around 490 million units by 2023, increasing approximately 80% compared to the number of shipments registered in 2020. Sales of other devices like gaming consoles and VR/AR headsets are growing strong, as consumers are even going after new and exciting experiences.

According to Deloitte’s Survey, the study found that 39% of respondents owned a smartwatch. Their most common uses have historically been to help people get fit, lose weight, and beat their personal health goals. Increasingly, people are using smartwatches to monitor their health, not just their running pace, as new hardware, software, and apps have turned them into personalized health clinics. Heart rate monitors are now standard on most smartwatches, and some have FDA approval for detecting abnormalities such as atrial fibrillation, a major cause of stroke. As these devices get more sophisticated, the percentage of consumers using them to manage chronic conditions and detect symptoms of serious disease will likely increase.

TAKE-HOME MESSAGE.

As COVID-19 spread, smartwatches that measure blood oxygen saturation (SpO2) became widely available, alerting people with low SpO2, a life-threatening symptom that is hard for people to detect unassisted. Moreover, data from these wearables can be sent for advanced analytics. With the right technology, including interoperability capabilities, doctors could see wearable health data on a patient’s health record, gaining access to more comprehensive information to inform diagnosis and care. Amidst the crisis, the wearables are, therefore, taking over the global CE market.

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech

家庭用電化製品（CE）は数十億ドル規模の産業を形成してテクノロジーと共に着実に進歩、発展して人々のライフスタイルの変化に向けて新しい製品ラインを追加している。Statistaによれば、パンデミックの際に幾つかのセクターで成長が途絶えたにもかかわらず、そして世界中の実店舗が断続的に閉鎖されたにもかかわらず、家電市場は回復力があった。更には人々は家で過ごす時間が長くなったためにインテリジェントなデバイスやアプライアンスを介した快適性とセキュリティの向上に対する需要の高まりが同セクターの成長を後押した。

従来、eコマース関連は依然として世界のオンライン販売で最も急成長しているセグメントの一つであるがそんな中でも家電製品とアパレルのオンライン販売は依然として総売上高に占める割合が堅調であった。Statista Consumer Market Outlookによると約5分の1の家電製品が既にオンライン経由で購入されており2023年までには31％に成長すると予想されていると言う。

Statistaの報告によれば2022年のCE市場の収益は1兆570億米ドルであり最大のセグメントは電話でありその市場規模は4,829億米ドルであるとの事である。更に市場は2022年から2026年までCAGRで毎年1.84％成長すると予想される。世界比較では殆どの収益は2022年には2,509億米ドルでそれらは中国で生み出されると。2022年末までには世界のCE市場のオンライン販売は総シェアの43.8％に達するとの事だ。

消費者市場では2026年までに89億5,070万個に達すると予想されCE市場は2023年に1.6％の量の成長を示すとの予想だ。CE市場の平均量は2022年に1.11個に達すると予想される。

従来の技術と新興技術への個人消費は5,050億米ドルに達すると予測されており、2022年までに21億台が出荷され前年比2.8％の成長を記録している。新たな消費者向けテクノロジーにはAR / VRヘッドセット、ドローン、オンデマンドデバイス、ロボットシステムなどがある。アジア太平洋地域における現代の消費者向け電子機器の人気の大幅な高まりにより近い将来には世界の消費者向け電子機器市場の成長が加速すると予想される。更に非常に競争の激しい市場として新しいプレーヤーが絶えず市場に参入しており特に中国は製品製造のグローバルハブである。それとは対照的に日本と韓国の市場は今後5年間で同様の速度で成長すると予想される。

フィットネストラッカー、スマートウォッチ、ヒアラブルなどのウェアラブルデバイスはCE市場に比較的新しく参入したものであり過去数年の間に消費者の熱い視線を浴びてきた。ウェアラブル市場全体は2023年までに約4億9千万台を出荷し2020年に登録された出荷数と比較して約80％増加するとされる。ゲーム機やVR / ARヘッドセットなどの他のデバイスの販売は消費者がエキサイティングな経験ができる新しいものを求めているため力強い成長を遂げている。

デロイトの調査によれば回答者の39％がスマートウォッチを所有しているとの事である。それらのこれまでの最も一般的な使い道は人々が健康になり、体重を減らし、個人の健康目標を達成する事をお手伝いする事であったが、新しいハードウェア、ソフトウェア、アプリがスマートウォッチをパーソナライズされたヘルスクリニックに変貌させるため人々はランニングペースだけでなくスマートウォッチを使用して自分の健康状態をモニタリングするようになってきた。現在殆どのスマートウオッチには心拍数モニターが標準で装備されており脳卒中の主な原因である心房細動などの異常を検出するためにFDAの承認を受けているものもある程だ。これらのデバイスが高度化するにつれて慢性疾患の管理や重篤な疾患の症状の検出にこれらのデバイスを使用する消費者の割合が増える可能性がある。

持ち帰りメッセージ（覚えておこう）

COVID-19の拡大につれ血中酸素飽和度（SpO2）を測定するスマートウォッチが広く市場に流通して来ており従来自分だけでは検出が難しい生命を脅かす症状であるSpO2が低い人々に警告を発する事ができる様になった。更にこれらのウェアラブルからのデータを送信して高度な分析を行う事も可能なのだ。相互運用性機能を含む適切なテクノロジーにより医師は患者の健康記録にウェアラブルな健康データを利用しての診断とケアの情報を得るという包括的な情報にアクセスできるようになるであろう。この危機の中でウェアラブルは世界のCE市場をほぼ独占しているのである。

Article by: Asst. Prof. Suwan Juntiwasarakij, Ph.D., Senior Editor & MEGA Tech