Saving & Conservation Energy

Medium-term renewable energy market

Medium-term renewable energy market
Share with

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คำว่า “พลังงานทดแทน” นั้น เป็นคำที่ค่อนข้างจะคุ้นหูกันอย่างมาก พลังงานทดแทน หมายถึง แหล่งพลังงานที่ใช้แล้วไม่หมดไป สามารถหมุนเวียนมาใช้ได้อีกอีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาด และก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล น้ำและไฮโดรเจน เป็นต้นถูกนำมาใช้แทนพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป ได้แก่น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ เนื่องด้วยความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลกส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาเชื้อเพลิงภายในประเทศนานาประเทศจึงได้พยายามส่งเสริมการผลิตพลังงานจากวัตถุดิบธรรมชาติด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ภายในประเทศ อีกทั้งยังมีการกำหนดนโยบายอย่างชัดเจนเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานที่มีอยู่ภายในประเทศให้ได้เต็มศักยภาพเพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงราคาเชื้อเพลิง​

โดยทั่วไป การวางแผนนโยบายพลังงานจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ นโยบายระยะสั้น (ภายใน 5 ปี) นโยบายระยะกลาง(ภายใน 5-10 ปี) และนโยบายระยะยาว (10 ปี ขึ้นไป)

• นโยบายพลังงานระยะสั้น มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานที่มีอยู่ ได้รับการยอมรับแล้ว และมีศักยภาพพลังงานสูง

• นโยบายพลังงานระยะกลาง มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน หรือแหล่งพลังงานใหม่ๆ ที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์

• นโยบายพลังงานระยะยาว มุ่งเน้นไปที่การลงทุนเพื่อจัดหาแหล่งพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการพลังงานในอนาคตซึ่งส่งผลให้มีความหลากหลายของแหล่งพลังงานมากขึ้น

แนวโน้มการเติบโตของตลาดพลังงานทดแทน

ในปี พ.ศ. 2556 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าทั้งโลก อันเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของแหล่งพลังงานน้ำและแสงอาทิตย์ ประกอบกับประเทศต่างๆ เริ่มตระหนักถึงการกำหนดนโยบายด้านความมั่นคงทางพลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งโลกจึงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 45 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นในโลก ในปี พ.ศ. 2557 โดยเฉพาะ พลังงานลมตามแนวชายฝั่ง (คิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากพลังงานทดแทน) และพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากเทคโนโลยีพลังงานมีราคาถูกลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานดังกล่าวลดลงตามไปด้วย ในปี พ.ศ. 2558 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในปีก่อนหน้า

รายงานการศึกษาตลาดพลังงานทดแทนระยะกลางของ International Energy Agency (IEA) ระบุว่าในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าพลังงานทดแทนจะมีการเติบโตอย่างมากเนื่องจากต้นทุนทางเทคโนโลยีมีราคาต่ำลงอย่างมาก โดย IEA คาดการณ์ว่าต้นทุนทางเทคโนโลยีของกังหันลมตามแนวชายฝั่งจะลดลงประมาณร้อยละ 15 และแผงเซลล์แสงอาทิตย์จะลดลงประมาณ 1 ใน 4 ของราคาปัจจุบันภายในปี พ.ศ. 2564

นอกจากนั้น การส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายด้านพลังงานทดแทนของประเทศผู้นำต่างๆ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาจีน อินเดีย และเม็กซิโก ประกอบกับการพัฒนาทางระบบการเงินเพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานทดแทนจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดการค้าพลังงานทดแทนขยายมากขึ้นกว่าเดิมภายใน 5 ปีข้างหน้า ดังรูปที่ 1โดยเฉพาะประเทศในแถบทวีปเอเซีย อันได้แก่ จีนอินเดีย และประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2558 พบว่า ประเทศจีนมีการติดตั้งกังหันลม 2ตัว ทุกชั่วโมง เป็นผลให้กำลังการผลิตติดตั้งของพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในประเทศจีน ในขณะที่การติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์มีการติดตั้งประมาณ 5 แสนแผง ในทุกวันทั่วโลก

Medium-term renewable energy market
Fig.1 World renewable energy market
Countries with Renewable Energy Policies and Targets, Early 2015​

แนวโน้มการเติบโตของตลาดพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในปัจจุบันประเทศในภูมิภาคอาเซียนกำลังประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นอย่างมากของความต้องการพลังงานไฟฟ้า ส่งผลต่อการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลและปัญหาด้านมลพิษทางอากาศภายในประเทศ ดังนั้นประเทศในภูมิภาคอาเซียนจึงมีการกำหนดกรอบนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อกำหนดความสำคัญใน 3 ด้าน ได้แก่การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การพัฒนาต้นทุนทางพลังงานและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่สามารถจัดหาได้ภายในประเทศ โดยเฉพาะพลังงานน้ำที่มีมากมายอย่างเหลือเฟือในภูมิภาคแห่งนี้ อีกทั้งยังมีการส่งเสริมการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพซึ่งมีศักยภาพสูงมากในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามแนวทางการส่งเสริมพลังงานทดแทนในภูมิภาคนี้ก็ยังคงหนีไม่พ้นพลังงานแสงอาทิตย์เช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก แต่ทว่าการพัฒนาและส่งเสริมพลังงานลมตามแนวชายฝั่งยังมีเพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางพลังงานค่อนข้างสูง และเป็นประเทศผู้นำด้านพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว