บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยและที่ปรึกษาที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกทั้งสองแห่งคาดการณ์ว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence (AI) จะมีบทบาทและมีความสำคัญมากที่สุดในระดับโลกจะมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจในหลายๆแห่งมองว่าระบบดิจิทัลจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Forrester ได้ลงทุนเพิ่มขึ้นสามเท่าในปี 2017 และ Gartner คาดว่า AI จะแพร่หลายในเกือบทุกผลิตภัณฑ์และบริการซอฟต์แวร์ใหม่ภายในปี 2563 ด้วยอินเทอร์เฟซการเรียนรู้การวิเคราะห์ในเชิงลึกและเทคโนโลยีการเรียนรู้ด้วยคอมพิวเตอร์ AI ให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานกับระบบที่ซับซ้อน และเครือข่ายแบบไดนามิกได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด ช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงและมีการใช้งานอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นในหลายๆอุตสาหกรรม เทคโนโลยีเหล่านี้ได้สร้างประโยชน์ในแง่ของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลกได้อย่างมหาศาล
AI Technology with big data
อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับความสามารถในเรื่องของ “make sense” ของ Big Data และแม้ใช้บางข้อมูลจะไม่ใช่ Big Data ก็ตาม การใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นั่นหมายว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงและแตกต่างไปในแต่ละองค์กรดังนั้นด้วยความสามารถของ AI จะทำให้กลุ่มโลจิสติกส์มีความแตกต่างกันในแต่ละความต้องการ
ความซับซ้อนที่เกิดขึ้นภายในของเครือข่ายโลจิสติกส์ทั่วโลกควบคู่กับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกือบเป็น “Mission impossible” ในการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจนั้นๆ ปริมาณข้อมูลดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อ Internet of Things (IoT) เข้าไปอยู่ใน Supply Chain เพื่อที่จะแข่งขันในตลาดโลกที่มีความรวดเร็วที่สูงขึ้นทุกขณะ องค์กรด้านโลจิสติกส์จะต้องเห็นคุณค่าและความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า
โลกของโลจิสติกส์คือการที่มีสิ่งของจำนวนมากเคลื่อนที่ ซึ่งทุกคนจะต้องมีการประสานงานร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่เหล่านี้ได้รับการบริหารจัดการในหลายแผนกและหน่วยงานต่างๆโดยอาศัยระบบซอฟต์แวร์หลาย ๆ ระบบพร้อมซัพพลายเออร์และผู้ให้บริการจำนวนมากพร้อมกัน เทรนการพัฒนาโลจิสติกส์มีแนวโน้มที่จะได้รับล้มเหลวหากอุตสาหกรรมยังอยู่แบบกระจัดกระจายไม่มีการทำงานร่วมกัน ซึ่งการใช้ AI เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์มากที่สุดที่จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้ทันตามกระแสแห่งปัจจุบันต่อไป

การประเมินผลกระทบที่เกิดจากการนำ AI เข้ามาใช้
บทบาทและความสามารถของระบบการจัดการการขนส่ง (TMS) เติบโตขึ้นเนื่องจากเครือข่ายโลจิสติกส์และการดำเนินงานกลายเป็นแบบไดนามิกและซับซ้อนมากขึ้น บริษัท ที่ดำเนินการจัดการด้านโลจิสติกส์ด้วยระบบที่ล้าสมัย หรือยังจัดการด้วยสเปรดชีตของตนเองจะมีประสิทธิภาพที่แย่ลงเรื่อยๆจนยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าในระยะยาวต่อไป รวมไปถึงไม่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ จึงไม่ต้องพูดถึงการพัฒนาการบริการที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆดังนั้น ผลกระทบ 3 อย่างในการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะมีดังนี้
- ประมวลผลและวิเคราะห์ Big Data บริษัท โลจิสติกส์จำนวนมากยังคงพึ่งพาสเปรดชีตและแก้ไขปัญหาหลายๆอย่างที่ล้าสมัยซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงกับการใช้ Big Data เนื่องจากข้อมูลที่ได้มีรายละเอียดที่แต่ต่างกัน แต่กรณีการใช้งานที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการใช้ AI supply chains นั่นคือการควบคุมข้อมูลทั้งหมดจาก supply chains และนำมาวิเคราะห์หารูปแบบและการให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงทุกสายการผลิตด้วยเทคโนโลยี AI เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดความซับซ้อนและสร้างมาตรฐานในการหาวิธีแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้กับวงจรการจัดส่งทั้งหมด แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นบน AI จะเป็นแหล่งข้อมูลเดียวในการจัดการข้อมูลและการไหลเวียนของข้อมูลในขณะเดียวกันก็สามารถใช้กระบวนการทางธุรกิจที่ซ้ำซ้อนได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
- ให้คำแนะนำอย่างชาญฉลาด AI สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและในขณะเดียวกันยังช่วยลดข้อผิดพลาดและช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยแพลตฟอร์มอัจฉริยะ (AI) ประกอบกับระบบธุรกิจอัจฉริยะ (BI) และระบบสารสนเทศเพื่อการให้คำปรึกษาด้านอุตสาหกรรม (CI) ซึ่งผู้ให้บริการและผู้การดำเนินงานจะให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ลูกค้า ข้อมูลที่ได้จากการดำเนินการนี้ช่วยเพิ่มการตัดสินใจได้ทันทีแบบเรียลไทม์ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอิงจากสถานการณ์ในแต่ละหน่วยงานธุรกิจและระบบทั้งหมดในลักษณะที่เชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นจนในบางครั้งมนุษย์ไม่สามารถทำได้
- ดำเนินการด้วยวิธีเชิงรุกและอัจฉริยะ แพลตฟอร์ม AI ที่ทันสมัยที่สุดไม่เพียง แต่วิเคราะห์และให้คำแนะนำ แต่พวกเขายังสามารถนำเอาข้อมูลมาทำการ ประเมิน วิเคราะห์ ให้คำแนะนำและดำเนินการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์เร่งด่วนที่กรณีเกิดความผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อที่โลจิสติกส์และธุรกิจจำนวนมากซึ่งจะช่วยให้ทุกองค์กรสามารถหาวิธีการแก้ไขปัญหา และลดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด
AI จะกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับแพลตฟอร์มอุตสาหกรรมเดิมทั้งหมดเพื่อให้ระบบเหล่านี้กลายเป็นระบบของ “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่ชาญฉลาด เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง การคิดใหม่และความสามารถใหม่ ๆ ที่ AI นำมาสู่องค์กรจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมทั้งหมดได้ด้วยการสร้าง “ปกติใหม่” ให้กับการดำเนินงานของบริษัท ด้วยวิธีการจัดการข้อมูลและวิธีที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ลูกค้าและผู้ให้บริการทำให้การโต้ตอบเหล่านี้มีความเป็นแบบอัตโนมัติมากขึ้นชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในที่สุด
