Logistics & Supply Chain

Robotic effectiveness of Smart Warehouse​

Robotic effectiveness of Smart Warehouse​
Share with

ในยุคที่ภาคการผลิตทุกส่วนผู้ผลิตให้ความสำคัญอย่างมากในการหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่เว้นแม้แต่ระบบ โลจิสติกส์ด้วยเช่นกัน

จากคนสู่คน การทำงานโดยอาศัยมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความผิดพลาด และปัญหาทางด้านแรงงานขาดแคลน และอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลก ประกอบกับปัจจัยทางด้านการเติบโตของระบบการขนส่งที่มีความต้องการสูงมากขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการแก้ปัญหาในหลายๆจุด จึงกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบโลจิสติกส์ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งให้รวดเร็ว แม่นยำ และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด กลายเป็นอัลกอริทึ่มสำคัญในการลงทุนทางด้านการนำระบบออโตเมชั่นและหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย และให้ประสิทธิภาพสูงอย่างมากดังเช่นศูนย์กลางการกระจายสินค้าของ คลังสินค้าแห่งหนึ่งบนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร (0.7 เอเคอร์) ตั้งอยู่ในเมือง Huiyang มณฑลกวางตุ้งซึ่งผู้ทางตอนใต้ของประเทศจีน และเป็นเจ้าของ T-mall ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบาผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Robotic effectiveness of Smart Warehouse​

Smart Warehouse

เมื่อตลาดทางการขายสินค้าออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน คลังสินค้าหลายแห่งจึงได้มีการวางระบบโดยการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติในการควบคุมการทำงานทั้งสิ้น 60 ตัว ซึ่งจะทำหน้าที่ในการค้นหาสินค้าตามจุดต่างๆ เคลื่อนย้ายสินค้าในคลังสินค้า และส่งสินค้าเพื่อเข้าสู่กระบวนการแพ็คและจัดเตรียมส่งให้กับลูกค้าทั่วโลก โดยการควบคุมและส่งข้อมูลจากส่วนกลางผ่านระบบ Wifi หุ่นยนต์ทุกตัวจะติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวซึ่งจะทำให้ไม่เกิดการปะทะกันในระหว่างการเคลื่อนที่ ใช้งานได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยตัวเองได้อย่างอัตโนมัติ รองรับน้ำหนักได้ถึง 600 กิโลกรัม (1,322 ปอนด์) ซึ่งจากในอดีตหากใช้มนุษย์ทำงานจะสามารถจัดเรียงสินค้าได้ 1,500 รายการ ภายใน 7.5 ชั่วโมง โดยจะมีขั้นตอนการทำงานรวมทั้งหมด 27,924 ขั้นตอน ในขณะที่ หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถจัดเรียงสินค้าได้ถึง 3,500 รายการในช่วงเวลาที่เท่าๆกัน และสามารถลดขั้นตอนการทำงานเหลือเพียง 2,563 ขั้นตอนเท่านั้น ซึ่งเมื่อดูถึงประสิทธิภาพโดยรวมแล้วจะพบว่าการใช้หุ่นยนต์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับการใช้มนุษย์แบบเดิม นอกจากนี้ยังประหยัดพื้นที่ใช้สอยในการทำงานได้ถึง 30% เนื่องจากความสามารถในการทำงานได้ทั้ง 4 ทิศทาง ซึ่งสามารถรองรับการขยายตลาด e-Commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Robotic effectiveness of Smart Warehouse - Robotic

Operating In Real-Time Is the New Standard

ด้วยระบบ Smart Warehouse นี้เองผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่ผู้ประกอบการส่งไปจนถึงผู้รับปลายทาง จะได้รับข้อมูลที่เที่ยงตรงแบบเรียลไทม์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยมีตัวแปรสำคัญคือระบบ RFID (Radio-frequency identification) เป็นวิธีการในการเก็บข้อมูลหรือระบุข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยทำงานผ่านการรับสัญญาณจากแท็กเข้าสู่ระบบ IoT โดยทุกจุดสถานีต้นทาง ศูนย์กลางการกระจายสินค้า ไปจนถึงสถานีปลายทาง จะสามารถใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดและส่งไปยังระบบ IoT ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบข้อมูลและเห็นสถานะของสินค้าได้อย่างทันท่วงทีและเกิดความผิดพลาดในการทำงานน้อยที่สุด นอกจากนี้จะพบว่าด้วยวิธีดังกล่าว การเดินทางขนส่งสินค้ารวมไปถึงการตรวจสอบสินค้าจะสามารถทำได้อย่างตลอดต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง 7 วัน ผ่านอุปกรณ์ทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งจะเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก

จะเห็นได้ว่า ณ วันนี้โลจิสติกส์ทั่วโลกสามารถขยายขอบเขตการทำงานได้อย่างหลากหลาย ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ และทุกๆสายงานที่เกี่ยวข้องกำลังจะต่อจิกซอว์การเชื่อมต่อโครงข่ายที่เข้าถึงกันได้อย่างเป็นระบบผ่านเทคโนโลยีต่างๆที่ได้รับการเผยแพร่อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากคุณอยู่ในวงการนี้ คุณไม่สามารถทำงานด้วยวิธี Stand alone ได้อีกต่อไปแล้ว!!

Robotic effectiveness of Smart Warehouse