ระบบการตรวจวัดความแม่นยำสูงมีความสำคัญมากขึ้นอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตแบบลีน (Lean Manufacturing) เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพการผลิตชิ้นงานแต่ละชิ้น ซึ่งในช่วงระยะหลังการตรวจวัดแบบ 100% ร่วมกับระบบการผลิตแบบออโตเมชั่น ได้รับการพัฒนาไปอย่างไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
ในอุตสาหกรรมยานยนต์และการผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินถือเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการผลิตอยู่เสมอ ซึ่งต้องอาศัยความละเอียดแม่นยำสูงในกระบวนการผลิตเพื่อให้โครงสร้างรถยนต์หรือเครื่องบินที่ได้รับการผลิตออกมามีความเทียงตรงและแม่นยำมากที่สุด เมื่อกล่าวถึงการตรวจวัดความละเอียดสูงในกระบวนการผลิต ทุกวันนี้การตรวจวัด 3 มิติแบบ off-line และ near-the-line ที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง ในการตรวจวัดโครงสร้างโลหะแผ่นขนาดใหญ่ในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โครงสร้างรถยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องบิน การประกอบไลน์รถยนต์ ฯลฯ ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่อาจนึกถึงเครื่องมือวัดสามมิติ CMM ขนาดใหญ่แบบ Stationary ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการตรวจวัดชิ้นงานในกระบวนการผลิตในโรงงานโดยเฉพาะ เราจำเป็นต้องนำชิ้นงานมาเข้าเครื่องมือวัดสามมิติ CMM มาตรวจวัดซึ่งจะต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้ายชิ้นงาน ในบางครั้งในอุตสาหกรรมการผลิตจะต้องอาศัยการทำงานแข่งกับเวลาดังนั้นการออกแบบและการผลิตชิ้นงานจำเป็นจะต้องทำในรอบเวลาที่สั้นลง และต้องอาศัยการตรวจวัด 3 มิติแบบพกพา หรือ เลเซอร์แทรคเกอร์ ( Laser Tracker ) ร่วมกับซอฟท์แวร์จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่ดีกว่า ในขณะเดียวกันยังสามารถตรวจวัดชิ้นงานได้อย่างในระหว่างการผลิตซึ่งจะช่วยลดอัตราการสูญเสียได้อย่างมหาศาล

ซอฟต์แวร์กับบทบาทในการควบคุมคุณภาพ
ซอฟท์แวร์อุตสาหกรรมได้เข้ามามีบทบาทในการควบคุมการผลิตไม่ใช่เพียงเฉพาะในส่วนระบบการวัดเท่านั้น แต่สามารถทำงานได้ครอบคลุมทั้งกระบวนการ ซึ่งผู้ผลิตเครื่องมือวัดบางรายได้ทำการวิจัยและพัฒนาระบบการวัดได้เล็งเห็นและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้ทำงานร่วมกับเครื่องมือวัดเพื่อเพิ่มศักยภาพในการตรวจวัดที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งซอฟท์แวร์เฉพาะทางด้าน CAD/ CAM ซอฟท์แวร์เพื่อควบคุม วัด และวิเคราะห์สถิติข้อมูลการผลิต เพื่อช่วยในการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์เพื่อหาเครื่องมือที่เหมาะสมในการผลิตชิ้นงานแต่ละประเภท การจำลองระบบการควบคุมกระบวนการเชิงสถิติ (Statistical Process Control, SPC) การเปรียบเทียบเพื่อหาช่วงการทำงานที่เหมาะสมที่สุด หรือการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดผิวชิ้นงาน เพื่อดูความสมบูรณ์และคุณภาพของชิ้นงานที่ได้รับการผลิต และคุณภาพในการประกอบชิ้นงาน เป็นต้น โดยการเก็บข้อมูลจะไม่ได้เกิดจากการเก็บข้อมูลทีละเครื่องจักรอีกต่อไป แต่ตัวเครื่องจักรและเครื่องมือจะสามารถประสานการทำงานวัดสามารถส่งข้อมูลเข้าสูงระบบกลางได้ทันทีซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่รับเป็นแบบ 100% ตามที่ลูกค้าต้องการ

ปฏิวัติการผลิตด้วยระบบการตรวจวัดอัตโนมัติ
ดังที่กล่าวไปถึงปัจจัยข้างต้นว่าการตรวจวัดชิ้นงานในระหว่างกระบวนการผลิตจะต้องอาศัยความคล่องตัว ลดเวลาในการตรวจวัดชิ้นงาน และสามารถเข้าถึงการตรวจวัดในระหว่างการผลิตได้ทันที อีกทั้งปัจจัยทางด้านการลงทุนที่ต่ำกว่า การใช้พลังงานโดยรวมที่คุ้มค่ามากกว่า แต่ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการตรวจวัดยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ผู้ผลิตสามารถยอมรับได้ จึงเป็นเครื่องไม่ยากที่ทำให้ระบบนี้ได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจอย่างแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาเพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 นั่นคือซอฟท์แวร์สามารถปรับการทำงานให้เหมาะกับแต่ละประเภทของงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้คุณสามารถกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมเก็บสำรองในฐานข้อมูลได้ สามารถใช้บันทึกประวัติข้อมูลสายการผลิตชิ้นงานตลอดทั้งกระบวนการได้ ด้วยวิธีนี้การทำงานทั้งหมดจะได้รับการบันทึกทั้งกระบวนการผลิต เครื่องมือและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการผลิตได้อย่างสมบูรณ์ และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประเมินกระบวนการผลิตหรือคุณภาพชิ้นงานต่อไป ซึ่งหมายความว่าเมื่อต้องนำชิ้นงานดังกล่าวเข้ามาผลิตใหม่อีกครั้ง เครื่องจักรจะสามารถตอบรับและดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีการปรับตั้งเครื่องมือ เครื่องจักร และเครื่องมือวัดอีกครั้งหนึ่ง ทำให้สายการผลิตมีความต่อเนื่องและสามารถผลิตชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง
