Metal Cut

Machining Solution Moving up towards Industry 4.0

Machining Solution Moving up towards Industry 4.0
Share with

หากการสร้างสรรค์ศิลปะจิตรกรรมซักชิ้น ผู้รังสรรค์ผลงานจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ได้งานศิลปะที่ทรงคุณค่า ซึ่งไม่ได้แตกต่างกับการหาวิธีการกัดกลึงชิ้นงานในแต่ละชิ้นให้เป็นตามที่ต้องการ

ในอดีตผู้ใช้งานทั้งหลายล้วนนำเอาความรู้และความชำนาญมาในการหาวิธีการกัดกลึงชิ้นงานให้ได้ออกมามีประสิทธิภาพ และมีความแม่นยำให้ใกล้เคียงกับชิ้นงานตัวอย่างให้ได้มากที่สุด การหาวิธีการต่างๆตั้งแต่ขั้นตอนการกลึงในแต่ละวิธีที่เหมาะสม ซึ่งในบางครั้งเครื่องจักรและรุ่นชนิดเดียวกัน ชิ้นงานเดียวกัน ผู้ใช้งานแต่ละคนก็มีกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันออกไป อาจใช้ความเร็วในการกลึง อัตราการป้อน เครื่องมือตัดและปัจจัยอื่นๆที่แตกต่างกัน จนในบางครั้งสิ่งที่ผู้ประกอบการได้รับนั่นคือ พวกเขาไม่สามารถหามาตรฐานการผลิตที่ดีได้ ผลที่ตามมาคือ สิ้นเปลืองในเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการทดลองตัดก่อนการทำงานจริง เครื่องมือตัดและอุปกรณ์ที่สึกหรอเร็วกว่าปกติ อีกทั้งผู้ประกอบการไม่สามารถหาข้อมูลการทำงานย้อนหลังเพื่อตรวจสอบความผิดพลาดได้            เมื่อเราอยู่ในยุคที่กำลังแข่งขันในเรื่องประสิทธิภาพการผลิตที่เหนือกว่าจะสามารถชิงชัยและประสบความสำเร็จได้ การนำเทคโนโลยีเข้ามาจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากซึ่งทิศทางที่เหมาะสมในการนำเทคโนโลยีให้เข้ามาพัฒนาหากอุตสาหกรรมของเราน่าจะเริ่มต้นจาก

Computing simulation Solution

               ในยุค 4.0 นี้การจำลองการผลิตผ่านระบบ Computing simulation หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จำลองลักษณะการทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตการเพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้การผลิตสามารถผลิตออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากระบบจะนำข้อมูลการผลิตที่มีตัวแปรการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว อัตราการป้อน ระยะเวลาในการทำงาน Tool life ฯลฯ มีทำการประมวลผล ซึ่งยิ่งเรามีข้อมูลที่ได้จากการผลิตมากขึ้นเท่าไหร่ ความแม่นยำในการหา Optimization ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

Big Data

               แน่นอนว่าข้อมูลที่ได้จากการผลิตทั้งข้อมูลภายใน ข้อมูลดิจิตอล เซนเซอร์ ข้อมูลภายนอก และข้อมูลที่ได้จากการผลิต ข้อมูลเหล่านี้จะมีความละเอียดและมีจำนวนมากขึ้นสะสมไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หากได้รับการเก็บรวบรวมและมีระบบการจัดการที่ดีจะทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ และความท้าทายที่น่าติดตามมากที่สุดคือการหาเครื่องมือที่จะสามารถพัฒนาระบบการตีความหรือวิเคราะห์ข้อมูลอันมหาศาลให้กลายเป็นคำตอบของการแก้ปัญหาให้ถูกต้องที่สุดนั่นเอง

Machining Solution Moving up towards Industry 4.0

Artificial Intelligence Plus the Internet of Things

หลายๆคนนั้นเข้าใจถึงความอัจฉริยะของระบบ AI เป็นอย่างดี ความอัจฉริยะนี้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์มากมายตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น Self-driving car หรือระบบอัลกอลิทึ่มใน google, facebook เป็นต้น ซึ่งเมื่อ AI มาทำงานร่วมกับระบบ IOT นั่นคือข้อมูลอันมหาศาลดังนั้นอัลกอลิทึ่มของ AI จะทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลทั้งหมดและแสดงผลถึงที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้น วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวล่วงหน้า และปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลกระทบให้เกิดความผิดพลาด และหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้ทรัพยากร และเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบการผลิตได้ดีที่สุด นอกจากนี้การบำรุงรักษาในแบบ Predictive maintenance ถือเป็นตัวอย่างของการใช้ AI ในระบบ IIOT ได้ดี นั่นหมายความว่าระบบจะขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึมที่ทำให้เครื่องจักรสามารถคาดการณ์ความจำเป็นในการที่ต้องบำรุงรักษาเมื่อใช้งานในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งตัวเครื่องจักรหรือแม้แต่ตัวอุปกรณ์เซนเซอร์ต่างๆด้วยวิธีนี้ระบบจะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยสามารถลดต้นทุนการผลิตและการบำรุงรักษาให้ต่ำสุดอีกด้วย

สิ่งที่เราต้องยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือ ณ วันนี้ AI ฉลาดกว่าเรา แม่นยำกว่าเรา มีประสิทธิภาพมากกว่าเรา ดังนั้น หากคุณอยู่ในวงการเทคโนโลยี วงการอุตสาหกรรม การทำงานตามแบบศิลปะส่วนบุคคลคงไม่เวิร์คอีกต่อไปแล้วในยุคการผลิตแบบ 4.0 แต่คุณสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ในอุตสาหกรรมได้ เพราะที่สุดของการพัฒนานั่นคือการใช้ความอัจฉริยะทางเทคโนโลยีต่อยอดความสำเร็จให้กับคุณ