Industry 4.0

The Next Generation of Collaborative Robot

The Next Generation of Collaborative Robot
Share with

การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ (Human-Robot Collaboration, HRC) จะเน้นการนำจุดเด่นที่แตกต่างกันมาใช้งานร่วมกันและเสริมซึ่งกันและกันทั้งการทำงานของมนุษย์และโปรแกรมเครื่องจักร ซึ่งหากมีการนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์รวมกันแล้ว จะเห็นได้ว่าการนำหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมาทดแทนการผลิตและใช้งานร่วมกับมนุษย์มีความเป็นได้ได้สูงที่จะประสบความสำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความปลอดภัยในการทำงาน​​

ในช่วงระยะหลังทั้งนักวิจัยและผู้ผลิตหุ่นยนต์ต่างให้ความสนใจในการออกแบบหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับแรงงานขั้นพื้นฐานในการผลิตชิ้นงานในอุตสาหกรรมต่างๆที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งได้มีการสำรวจเกี่ยวกับแนวทางในการนำนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสมารถทางการผลิตให้กับเทคโนโลยีการประกอบรถยนต์โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างมนุษย์ร่วมกับหุ่นยนต์ โดยในระหว่างการประกอบชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนนั้นเราต้องการทั้งประกอบหลังที่ต้องมีการจัดการที่แม่นยำสูง และการประกอบรองที่ใช้ในการจับยึดด้วยหมุด น็อตหรืออุปกรณ์จับยึดขนาดเล็กๆต่างๆ บางงานต้องการความแม่นยำและความเร็วสูงในการทำงานอย่างอัตโนมัติในขณะที่ยังต้องได้รับประโยชน์อื่นๆจากว่างคล่องแคล่วและความเชี่ยวชาญในการทำงานของมนุษย์ด้วยเช่นกัน การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ จึงนำไปสู่ประโยชน์ในการใช้งานเพื่อเพิ่มความเร็ว ประสิทธิภาพ และคุณภาพที่ดีขึ้นในการทำงานในอุตสาหกรรม​​

The Next Generation of Collaborative Robot

อย่างไรก็ตามระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ยังไม่ค่อยถูกนำมาใช้ในการผลิตย่อยๆ เนื่องจากความหลากหลายในการผลิตและปัจจัยต่างๆที่มีความแปรผันสูง โรงงานผลิตที่มีการทำงานที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นสูงจะเหมาะกับการใช้งานแบบแมนนวลมากกว่า ปัจจุบัน นอกจากหุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตในกระบวนการในอุตสาหกรรมแล้ว บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์หลายรายยังได้พัฒนาหุ่นยนต์เพื่องานก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อการประกอบโครงสร้าง และเชื่อมโดยการใช้หุ่นยนต์ ตัวอย่างเช่น Universal Robots (UR3, UR5, UR10), KUKA LBR iiwa, ABB Yumi และ Fanuc CR-35iA เป็นต้น​

KUKA LBR iiwa ซึ่งเป็นหุ่นยนต์น้ำหนักเบาสำหรับงานประกอบติดตั้งที่ต้องการความไวในการตรวจจับ จะนำรั้วนิรภัยออกจากพื้นที่ทำงานเพื่อเปิดทางให้สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์  เป็นครั้งแรกที่มนุษย์และหุ่นยนต์จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดสำหรับงานที่ต้องการความไวในการตรวจจับสูง จึงเกิดรูปแบบการใช้งานใหม่ที่คิดค้นขึ้น พร้อมด้วยแนวทางที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงสุด หุ่นยนต์ประสานงานและมีความไวในการตรวจจับ LBR iiwa มีวางจำหน่ายสองรุ่น โดยมีความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุก 7 และ 14 กก. ​

Universal Robots เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เป็นผู้นำระดับโลกทางด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ ถือเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และปัจจุบันถือเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหุ่นยนต์ในรุ่น UR10 ถือเป็นรุ่นหุ่นยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดทำขึ้นเพื่อนำมาใช้งานหนักหรืองานที่จำเป็นต้องมีการเข้าถึงได้ดีกว่า หุ่นยนต์รุ่น UR10 จะมีลักษณะการทำงานคล้ายกับหุ่นยนต์ในรุ่นอื่นๆที่มีน้ำหนักเบากว่า ควบคุมการทำงานได้ง่ายผ่านระบบอินเตอร์เฟส ผู้ใช้งานยังได้รับประโยชน์จากการใช้แพลตฟอร์ม UR+ ในการทำงานและการค้นหาเครื่องมือที่ง่ายดายและเหมาะสมกับหุ่นยนต์นี้

The Next Generation of Collaborative Robot

อย่างไรก็ตามเป็นหุ่นยนต์ประเภทนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของอัตราการรองรับน้ำหนัก ความเร็วและความแข็งแรงซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้จำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่เป็นไปตามข้อกำหนดทางด้านเทคนิค ISO 150066 เพื่อความปลอดภัยในการทำงานกับผู้ใช้งาน ในการเริ่มต้นแนะนำและเฟ้นหาหุ่นยนต์ที่เหมาะกับโรงงานแต่ละแห่งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับธุรกิจของคุณ ถ้าคุณได้หุ่นยนต์ที่เหมาะสมมันจะช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ป้องกันอันตรายการบาดเจ็บ และข้อดีต่างๆมากมาย

ในกระบวนการผลิตยังมีอีกหลายขั้นตอนที่จำเป็นจะต้องพัฒนาขึ้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อคุณได้หุ่นยนต์ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมของคุณแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการคัดเลือกเครื่องมือและลักษณะการทำงานที่เหมาะสม ดังนั้นการเลือกซื้อหุ่นยนต์จึงเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นที่นำมาประกอบในการพัฒนาระบบสายการผลิตทั้งอุตสาหกรรมต่อไป